ใครว่าเกมไร้สาระ ผมขอเถียงเลยด้วยบทความนี้ ข้อคิดจากเกมดีๆ นั้นมีมากมาย มีอะไรบ้างมาดูกันครับ!
Life is a Game
ผมเห็นด้วยเต็มๆ กับคำพูดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ผมเริ่มฝึกฝนการใช้ Excel ใหม่ๆ ผมรู้สึกว่าผมกำลังเล่นเกม Online RPG อยู่ชัดๆ
มันทำให้ผมนึกย้อนกลับสมัยที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย (ประมาณปี 2001…) ช่วงนั้นเกมออนไลน์ที่ชื่อว่า Ragnarok Online กำลังดังมากๆ และผมก็เป็นหนึ่งคนที่ติดเกมนี้เข้าอย่างจัง ซึ่งพอมาถึงในยุคปัจจุบันแล้วมองย้อนกลับไป ยิ่งเห็นชัดว่าการพัฒนาของตัวละครของเราในเกมมันเหมือนกับการพัฒนาตัวเองในชีวิตจริงมากแค่ไหน
ซึ่งผมขอสรุปข้อคิดดีๆ ที่ได้จากการเล่นเกมมาให้ ว่าเราจะเอามาปรับใช้กับการพัฒนาทักษะของเราในชีวิตจริง รวมถึงเรื่องของการพัฒนาฝีมือ Excel ของเราได้ยังไง มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!
สารบัญ
10 ข้อคิดจากเกม
1. ค้นหาเป้าหมายของชีวิต
Credit รูป : http://rostory.irowiki.org/letters/friends/page2/
ในเกม Online RPG นั้นมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งที่ต่างจากเกมทั่วไป นั่นก็คือ มันไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะบอกว่าเราต้องทำอะไรถึงจะเรียกว่า “ชนะเกม” ได้ แต่ละคนต้องหาเป้าหมายของตัวเอง กำหนดชีวิตตัวเองว่าวันๆ จะทำอะไรบ้าง?
บางคนก็คิดเป้าหมายว่าต้องจัดการ Boss ให้ได้ บางคนก็อาจตั้งเป้าว่าต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งจนไปถึง Level 99 ให้ได้ บางคนอาจแค่อยากเจอเพื่อนดีๆ มิตรภาพดีๆ ก็พอแล้ว
Credit รูป : http://www.playragnarok.com/news/updatedetail.aspx?id=144
ในชีวิตจริงก็เช่นกัน มันไม่มีใครกำหนดให้เราชัดเจนหรอกว่า ชีวิตเราต้องทำอะไร ถึงจะเรียกว่า “สำเร็จ” มันเป็นสิ่งที่เราต้องนิยามให้ตัวเอง กำหนดชีวิตตัวเองทั้งนั้น การฝึกฝน Excel ก็เหมือนกัน สุดท้ายแล้วคุณอยากจะใช้ Excel ได้เก่งแค่ไหน ใช้ทำอะไร มีเป้าหมายอะไร มันเป็นเรื่องของแต่ละคนล้วนๆ
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ คุณควรจะต้องมีเป้าหมาย และเป้าหมายที่ดีควรทำให้คุณตื่นเต้นหรือมีความสุข และอยากจะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายนั้นในทุกๆ วัน ดังนั้น ถ้ายังไม่มี อย่าลืมคิด Mission ของคุณด้วย!
2. สายอาชีพ
ต้องเล่าแบบนี้ครับ ในเกม RPG ส่วนใหญ่ตัวละครที่เราเลือก ท้ายที่สุดแล้วจะสามารถพัฒนาจนมีความสามารถที่แตกต่างกัน โดยจะแบ่งเป็น “สายอาชีพ” ต่างๆ ซึ่งอาจมีอาชีพขั้นพื้นฐานก่อนแล้วค่อยเติบโตไปเป็นอาชีพขั้นสูง
Credit รูป : http://www.class2-juti.com/feed/3.html
ซึ่งการใช้ Excel ก็มีลักษณะคล้ายๆ สายอาชีพเช่นกัน แต่ผมขอเรียกว่า “สายทักษะ” แทน และมันก็มีสายทักษะขั้นสูงด้วย ซึ่งผมขอแบ่งออกเป็น 4 ทักษะขั้นสูงดังนี้
- Master of VBA : เน้นการแก้ปัญหาด้วยการเขียนโปรแกรมเป็นหลัก ซึ่งคนสายนี้จะทำสิ่งมหัศจรรย์ที่คนทั่วไปมักร้องว้าว! เพราะ VBA ทำได้ทุกอย่างที่คนนั่งถึกๆ ทำได้เหมือนกับเสกเวทย์มนตร์ และยังสามารถทำในสิ่งที่การเขียนสูตรทำไม่ได้อีกด้วย แต่ติดข้อจำกัดตรงที่เป็นกลุ่มทักษะที่ต้องการ Skill ต่างไปจากทักษะ Excel ดั้งเดิมมากที่สุด ทำให้เรียนรู้ยาก และในบางสถานการณ์จะถูกห้ามใช้พลัง VBA โดยสิ้นเชิงเลย (บางทีคนก็ไม่ยอมให้สร้างไฟล์ที่มี VBA)
- Master of Array Formula : สายที่เน้นการใช้สูตรคำนวณ เก่งการใช้สูตรในการแก้ปัญหามาก สามารถใช้ Array Formula ได้อย่างคล่องแคล่ว คนกลุ่มนี้สามารถรับภารกิจลุยไปได้เกือบทุกพื้นที่ เพราะไม่มีความน่ากลัวแอบแฝงเหมือนกลุ่มนักเขียนโปรแกรม (ไม่ติดข้อจำกัดเรื่องที่ว่าห้ามใช้ VBA)
- Master of Power Tool : สายนี้เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหลัก ชอบลุยกับข้อมูลจำนวนมาก มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้พวก Power Query, Power Pivot, DAX Formula/DAX Pattern ซึ่งเป็นสุดยอดเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ Excel มีมาให้ด้วย รวมถึง Power BI ที่รวมทุกอย่างที่กล่าวมา ซึ่งแนวโน้มความต้องการในยุคนี้น่าจะมาแรงมากจากความต้องการเรื่องของ Big Data
- Master of Visualization : สายนี้เน้นการสร้างแผนภูมิ กราฟ หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ข้อมูลที่เดิมดูเข้าใจยาก กลับดูง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากทักษะด้าน Excel โดยรวมที่ดีแล้ว คนกลุ่มนี้จะต้องมีทักษะด้านการนำเสนอที่ดีด้วย ซึ่งยิ่งข้อมูลเยอะ ยิ่งต้องอาศัยการย่อยเพื่อนำเสนอที่ดี ดังนั้น
- Super Novice : เน้นใช้ความรู้พื้นฐานของ Excel ทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ใช้อย่างลึกซึ้ง พยายามขุดความสามารถที่มีของ Excel ดั้งเดิมออกมาอย่างเต็มที่ คนที่มาสายนี้มักมีความเฉลียวค่อนข้างสูง และรู้จักการพลิกแพลงเพื่อหาคำตอบเป็นอย่างดี เช่น ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบด้วยวิธีตรงๆ ซึ่งอาจต้องใช้ VBA หรือ Array Formula แต่คนสายนี้อาจแค่สร้างคอลัมน์ช่วย (Helper Column) สุดท้ายก็ทำงานได้เหมือนกัน
- สายอื่นๆ : คุณคิดว่ามีอะไรบ้างช่วย Comment บอกทีครับ ^^
หากใครสามารถวางแผนได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ค้นหาตัวเองเจอว่าสุดท้ายแล้วตัวเองจะเลือกสายอาชีพอะไร จะได้เปรียบคนที่โลเลเปลี่ยนไปเปลี่ยนมามาก เพราะคุณจะไม่เสียเวลาไปกับทักษะที่สุดท้ายไม่ได้ส่งเสริมสายอาชีพคุณ อย่างไรก็ตาม ถ้ายังหาตัวเองไม่เจอ คุณก็อย่าคิดมาก คุณแค่ยังทำโน่นทำนี่ไม่มากพอ ยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ ก็เลยยังไม่รู้จักตัวเองเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม เรื่องของ Demand/Supply ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เพราะหากสุดท้ายในโลกที่คุณอยู่มีสายอาชีพ/สายทักษะที่คุณเลือกเต็มไปหมดเลย Supply ก็จะเยอะเกินความต้องการ บางทีคุณไปเลือกเป็นสายอาชีพที่ไม่ค่อยมีคนเลือก อาจจะเป็นที่ต้องการมากกว่าก็ได้
แต่คุณไม่จำเป็นต้องเก่ง Excel ไปพร้อมกันหมดทุกสายทักษะ ผมเชียร์ให้คุณเก่งทีละด้านไปเลยดีกว่า เอาให้สุด!! เพื่อให้เป็น Expert ไปเลย ถ้าคิดว่าเรียนรู้สุดแล้ว ค่อยลองหันมาเรียนรู้สายอื่นเพิ่มเติมทีหลังก็ได้
3. Skill Tree
การจะมุ่งไปสู่สายอาชีพต่างๆ ได้จะมีสิ่งที่เรียกว่า Skill Tree ซึ่งเป็นเหมือนแผนที่ คอยบอกว่าหากคุณต้องการจะพัฒนาทักษะเจ๋งๆ ในปลายทางแล้ว คุณจะต้องผ่านทักษะอะไรก่อนบ้าง
Credit รูป : http://scottandmona.com/photographyyku/.c/9/1/Ro%20Skill%20Tree.html
ซึ่งประเด็นนี้เป็นจุดที่ผมคิดว่าตรงกับใน Excel สุดๆ จนผมต้องแอบเอาไปลงในหนังสือนิดหน่อยดังรูปข้างล่างนี้
แต่ในความเป็นจริงแล้วการจัดทักษะมันมองลึกลงไปกว่านี้ได้อีกเยอะ เช่น การใช้ IF อาจต้องแบ่งเป็นหลาย Level ตั้งแต่ การเข้าใจ Logic TRUE/FALSE, การเขียน IF ขั้นเดียว, การผสม TRUE/FALSE หลายๆตัวเข้าด้วยกัน, การเขียน IF ซ้อน IF เป็นต้น
ซึ่งทุกฟังก์ชั่น ทุก Skill สามารถลงลึกไปได้หลาย Level เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเวลาขึ้นสายทักษะขั้นสุดยอดอย่างพวก VBA, Array Formula, PowerPivot ยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกเป็นพวง (เหมือนกับการขึ้น Job ใหม่ในเกมนั่นแหละครับ)
4. เก็บประสบการณ์
การจะไปถึงเป้าหมายในเกมนั้น คุณจะต้องมีความสามารถและเก่งพอที่จะผจญภัยไปยังดินแดนแสนอันตรายได้ แน่นอนว่าตอนเข้าเล่นเกมใหม่ๆ คุณเป็นเพียงมือใหม่ (Novice) ที่ค่อนข้างไร้ความสามารถ ทำอะไรก็ไม่เป็น (แต่ก็มักมีคนเก่งๆ มาช่วยนะ)
คุณจะเก่งขึ้นได้โดยการสู้กับศัตรูเพื่อเก็บค่าประสบการณ์ (แท่งสีฟ้าๆ 2 อันล่างในรูป) ซึ่งถ้าเก็บได้มากพอก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Level up! ขึ้น แล้วคุณก็จะเก่งกว่าเดิมพอสมควรเลยล่ะ!
Credit รูป : http://rostory.irowiki.org/lockeypoo/friends/
ในการฝึก Excel ก็เช่นกัน มันไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่แรกหรอกครับ คนเราต้องค่อยๆ ฝึกฝน เจอปัญหาง่ายๆ ก่อน พอเก็บประสบการณ์มากพอก็สามารถที่จะลองลุยปัญหาที่ยากขึ้นเรื่อยๆได้
เมื่อคุณ Level Up! ไปสูงขึ้นแล้ว ยิ่งต้องใช้แต้มประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ในการที่จะ Level Up! ไปขั้นถัดไปได้ ใน Excel ก็เช่นกัน หากคุณเก่งขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว คุณต้องหาอะไรที่ท้าทายมากๆ ทำ ไม่งั้นคุณจะ Level Up! ช้ากว่าที่ควรจะเป็นมาก
จุดต่างที่สำคัญในประเด็นนี้คือ ในเกมไม่ว่าจะฝึกอะไรก็ตาม เราก็สามารถเลือกไป Level Up ทักษะอีกอย่างที่ต้องการได้
แต่ในชีวิตจริง อยาก Level Up! เรื่องไหนก็ต้องฝึกฝนเรื่องนั้น เช่น ใน Excel คุณอยากเก่งเรื่อง VLOOKUP คงไม่สามารถไปฝึกจากการเขียน IF บ่อยๆ ได้หรอกนะครับ!
5. ทุกการฝึกฝนมีค่าเสมอ
Credit รูป : http://reg.ragnarok.in.th/ro_guide/chap2/chap2_5.html
ซึ่งแน่นอนว่าขั้นตอนการฝึกฝนเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ช่วงแรกๆ นั้นเป็นช่วงเวลาที่อาจจะน่าเบื่อ เพราะฝึกไปตั้งนานก็อาจยังไม่รู้สึกว่าเก่งขึ้นซักที แถมยังไปอวดคนอื่นไม่ได้ด้วย เพราะฝีมือยังอ่อนเกินไป
แต่ผมอยากให้คิดไว้เสมอว่า “ทุกการฝึกฝนมีค่าเสมอ” แม้ปัญหาที่คุณกำลังแก้อยู่ จะไม่ได้ทำให้คุณ Level Up! ทันที แต่ผมมั่นใจว่าคุณต้องได้รับค่าประสบการณ์ไปสะสมเรียบร้อยแล้วแน่นอน ซึ่งถ้าสะสมมากพอ การ Level Up! จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้นให้คุณจินตนาการเลยว่า ทุกครั้งที่คุณฝึกฝนตัวเอง แต้มตัวเลขประสบการณ์บนหัวของคุณมันจะค่อยๆ เด้งเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน !! รอวันที่จะ Level Up! ได้เลย
6. เพื่อนและมิตรภาพ
ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการเดินทางคนเดียวเพียงลำพัง เพราะมันทั้งเหนื่อยและน่าเบื่อ… แม้บางคนจะชอบลุยเดี่ยว ทำงานคนเดียวได้ แต่ผมเชื่อว่ามันทำได้ก็แค่ในฉากที่มันไม่โหดร้ายเกินไปเท่านั้นแหละ หากคุณต้องบุกลงไปใน Dungeon แสนโหดร้ายเพียงคนเดียว โอกาสรอดกลับมาก็ยาก
และบางทีคุณอาจต้องตัดสินใจเลือกพัฒนาทักษะแบบเป็ดๆ เพื่อเอาชีวิตรอดด้วยตัวคนเดียวได้ ทำให้ไม่มีโอกาสพัฒนาไปสุดซักด้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
credit รูป : https://twitter.com/hashtag/ชุบทีมีใบ
ในทางกลับกัน หากคุณมีเพื่อนร่วมเดินทาง ทั้งทั้งสบาย และทั้งสนุก (ในเกมเรียกกลุ่มเพื่อนว่า Party ซึ่งผมมองว่ามันทั้งหมายถึงกลุ่มพรรคพวก และปาร์ตี้มันก็ควรจะสนุกจริงๆ นั่นแหละ) แถมคุณยังใช้หลักการ “แบ่งงานกันทำ” ได้ คุณตกลงกันได้ว่า ใครจะเป็นสายลุย ใครจะเป็นสาย Support จะลุยแบบไหน Support แนวไหน เอาให้มันเจ๋งสุดๆ ไปเลยซักด้านหนึ่ง ให้จุดแข็งของคนหนึ่งไปปิดจุดอ่อนอีกคนหนึ่งได้ เท่านี้กลุ่มของคุณก็จะเก่งขึ้นมาก
Credit รูป : http://www.robrowser.com/blog/party-system-just-landed
ใน Excel ก็เช่นกัน หากคุณใช้สูตรหรือฟังก์ชั่นหลายอย่างผสมพลังรวมกัน มันจะยิ่งทวีอานุภาพ และใช้งานได้หลากหลายกว่าการใช้สูตรเดี่ยวๆ เป็นอย่างมาก
เช่น ใช้พวก AND คู่กับ IF หรือ สูตร INDEX คู่กับ MATCH ก็เข้าขากันได้ดีทีเดียว
7. การเตรียมตัวในแต่ละศึก
ในเกมก่อนที่เราจะออกไปลุยเก็บประสบการณ์ในฉากต่างๆ หรือใน Dungeon ก็ตาม เราจะต้องรู้ก่อนว่าศัตรูหรือปัญหาที่เราจะเจอนั้นมีลักษณะเป็นยังไง แพ้ทางอะไร เรามีอะไรที่จะไปสู้ด้วยได้ และควรจะสู้ด้วยวิธีไหนถึงจะมีประสิทธิภาพ เข้ากับคำคมที่ว่า “รู้เขา รู้เรา” นั่นแหละครับ ซึ่งนอกจากจะรู้แล้ว ก็ต้องเตรียมอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมด้วย เช่น เตรียม Shortcut คำสั่ง/item ที่ใช้บ่อยๆ ไว้เลย เวลาใช้ก็กดปุ่มง่ายๆ
Credit รูป : http://www.roguides.co.in/2010/08/pvp-champion-build-guide-using.html
ซึ่งใน Excel เราก็สามารถเตรียมเรื่องแบบนี้ได้เหมือนกันครับ คุณสามารถศึกษาก่อนได้ว่า เจ้านายหรือลูกค้าคุณชอบงานแบบไหน คุณจะได้ทำงานได้ถูกใจ เพราะแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน
รวมถึงคุณจะต้องทำงานแบบไหนบ่อยๆ คุณก็ควรจะเตรียม Quick Access Toolbar ซึ่งจะกดเรียกใช้ง่ายมาก ทั้งใช้ Mouse หรือ Keyboard Alt+1,2,3,4… ก็ได้ หรือจะเรียนรู้ Shortcut อื่นๆ ให้พร้อมกับการทำงานนั้นๆ ให้มากที่สุด เพื่อที่ว่าเมื่อเจอศัตรูหรือปัญหา จะได้กดท่าไม้ตายต่างๆ กระหน่ำโจมตีได้อย่างรวดเร็ว
8. รางวัลที่ได้จากการจัดการศัตรู
Credit รูป : https://forums.warpportal.com/index.php?/topic/157495-ragnarok-player-history-archive/
ในเกมเวลาที่เราจัดการกับศัตรูได้ สุดท้ายก็จะได้ประสบการณ์มาเพื่อให้ตัวเอง Level Up! และอาจได้ Item เจ๋งๆ ติดไม้ติดมือมาด้วย
ถ้าเราลงมือคนเดียว เราก็ได้ผลลัพธ์นั้นคนเดียวแน่นอน แต่ถ้าเราไปลุยกับเพื่อนเป็น Party คนที่ลงมือจัดการกับปัญหามากที่สุด จะได้ค่าประสบการณ์มากที่สุดและได้รับ Item ชิ้นพิเศษไป
ใน Excel ก็เหมือนกันครับ หากคุณมีโปรเจคบางอย่างที่ต้องทำ ไม่แปลกและไม่ผิดหากคุณจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่ถ้าหากคุณขอให้คนอื่นช่วยโดยที่คุณไม่ทำอะไรเลย สุดท้ายแม้โปรเจคนั้นจะจบลงได้ แต่คุณก็แทบจะไม่ได้รับอะไรจากมันเลยแม้แต่ประสบการณ์ของการทำงาน และสุดท้ายความจริงก็เป็นสิ่งไม่ตายครับ ผู้ใหญ่หรือลูกค้าต้องรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนหลักในการทำผลงานชิ้นนั้นๆ แล้วรางวัลพิเศษก็ย่อมตกอยู่กับผู้ที่ลงมือทำอย่างแน่นอน
9. จะใช้ของดี ตัวเราเองก็ต้องเจ๋งด้วย
อุปกรณ์ต่างๆ ในเกมนั้นมีความสำคัญที่จะช่วยทำให้ตัวละครที่เราเล่นเก่งขึ้นมาก เช่น ถ้าปกติตัวละครมีพลังโจมตี 87 แต่พอใส่ Item ต่างๆ ลงไป อาจช่วยให้พลังโจมตีเยอะขึ้นได้ เป็นต้น
credit รูป : http://ragnarokgameplay.blogspot.com/2014/07/build-champion-full-mvp-ragnarok.html
แต่ทว่าส่วนใหญ่แล้วมันก็จะมีระดับความเก่งของตัวละครกำหนดอยู่ว่า ถ้าจะใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือเจ๋งๆ ได้ จะต้องมีความเก่งระดับไหน เช่น คุณจะต้องอยู่ใน Level 40 ขึ้นไป เป็นต้น
ในชีวิตจริงก็เหมือนกันครับ หนังสือบางเล่ม สัมมนาบางคอร์ส อาจทำให้คุณบรรลุ Excel ขั้นสูงสุดได้ แต่ถ้าคุณมีความรู้พื้นฐานไม่พอ คุณก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก Item ชิ้นนั้นได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเราต้องอย่าลืมพัฒนาทักษะของตัวเราให้พร้อมและเลือก item ให้เหมาะกับระดับของตัวเองด้วย
10. วิธีการเดินทางสำคัญไม่แพ้เป้าหมาย
เมื่อคุณผจญภัยในโลกแห่งเกม Online RPG ไปซักพัก หลายคนจะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพัฒนาช้าเกินไป เลยเริ่มจะทำอะไรที่ผิดกฎเกณฑ์ของเกมที่ตั้งไว้ ถ้าโชคดียังไม่มีใครจับได้ก็ดีไป แต่ถ้าโชคร้ายคุณอาจจะถูกแบน อดเล่นเกมนั้นไปอีกตลอดกาล
ในชีวิตจริงของคนเรา มีสิ่งยั่วยุมากมายให้ทำในวิธีที่ไม่เหมาะสม ผมอยากจะให้ทุกคนใจแข็งไว้ อย่าไปหลงในความโลภที่มาหลอกล่อคุณ ให้คุณตั้งมั่นในความตั้งใจและในเป้าหมายของตัวเองไว้ แล้วลงมือทำมันด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของสังคม และถูกต้องตามหลักศีลธรรมเท่านั้น
Credit รูป : http://ratemyserver.net/index.php?page=detailedlistserver&serid=16985&url_sname=Kazue%20RO
การทำแบบนี้ไม่เพียงจะทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ มันยังทำให้คุณภูมิใจ สามารถที่จะเล่าให้คนอื่นฟังได้อย่างเต็มปาก ว่าสุดท้ายแล้วคุณเปลี่ยนจาก Novice จนกลายมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ยังไง
ซึ่งหากคุณโกงมา ความภูมิใจเหล่านี้ก็จะหายไปตลอดกาล ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายจริงๆ ครับ