คำอธิบาย
ฟังก์ชัน DAY จะช่วยให้คุณดึงค่าของเลขวัน (1-31) จากข้อมูลวันที่มาได้
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
DAY(serial_number)
Arguments
- serial_number (Required – Date)
วันที่ที่ Excel เข้าใจ หรือสามารถระบุวันที่โดยใช้ฟังก์ชัน DATE หรือผลลัพธ์จากฟังก์ชันอื่นๆ ก็ได้ (ที่มันใช้คำว่า serial_number เพราะ วันที่ January 1, 1900 คือเลข 1 แล้วไล่เลขไปเรื่อยๆ
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ดึงค่าของวันจากวันที่ในเซลล์ A2=DAY(A2)
Result:แสดงผลลัพธ์เป็นวันที่ในเดือนจากวันที่ที่อยู่ในเซลล์ A2 - Formula:
Description: ดึงวันของวันจากวันที่ 20 มกราคม 2025=DAY(DATE(2025,1,20))
Result: 20 - Formula:
Description: ดึงวันของวันที่ปัจจุบัน=DAY(TODAY())
Result:แสดงผลลัพธ์เป็นเลขวัน (1-31) ของวันที่ปัจจุบัน - Formula:
Description: แสดงข้อความเป็นเลขวันสองหลักจากวันที่ใน A2=TEXT(DAY(A2), "00")
Result: : “05” (แทนที่จะเป็น 5 เหมือนปกติ) - Formula: A2 มีวันที่ 23/12/2025
Description: หาวันเริ่มต้นของเดือนในวันที่สนใจ โดยลบเลขวันออกไป (ทำให้ได้สิ้นเดือนก่อนหน้า) แล้ว + 1 เข้าไปทำให้ได้วันแรกของเดือนนี้=A2-DAY(A2)+1
Result: 1/12/2025
Tips & Tricks
ถ้าคุณต้องการดึงวันจากวันที่วันนี้ เพียงใช้ฟังก์ชัน =DAY(TODAY()) ก็จะสามารถดึงค่าได้ทันที! และอย่าลืมว่าคุณสามารถนำฟังก์ชัน DAY ไปใช้ร่วมกับฟังก์ชัน DATE เช่น =DATE(YEAR(A2)+1, MONTH(A2), DAY(A2)) เพื่อเพิ่มจำนวนปีในวันที่ของคุณได้
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังเรื่องรูปแบบวันที่! ถ้าวันที่ไม่ถูกยอมรับจะทำให้ฟังก์ชันคืนค่าผิดพลาด #VALUE! อย่าลืมใช้รูปแบบวันที่ที่ Excel รู้จัก เช่น ใช้ DATE ฟังก์ชันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดีของฟังก์ชัน DAY คือมันใช้ง่ายและเข้าใจได้ง่าย มันสามารถถูกใช้ร่วมกับฟังก์ชันวันอื่นๆ ใน Excel เพื่อสร้างการคำนวณวันที่ที่ซับซ้อนได้ แต่อย่าลืมว่ามันแค่ส่งคืนเป็นวันเท่านั้น ต้องใช้ฟังก์ชันอื่นเพื่อปีหรือเดือน
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply