TLDR สรุปสั้นๆ

ROW หาเลขแถวจากข้อมูลที่อ้างอิง

คำอธิบาย

ROW ฟังก์ชันนี้จะคืนค่าเลขแถวของเซลล์ที่อ้างอิงถึง หรือถ้าไม่ได้ระบุอ้างอิง ก็จะคืนค่าตำแหน่งของเซลล์ที่ฟังก์ชันนี้ถูกใช้อยู่

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2003 หรือ Version ก่อนหน้า

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

ROW([reference])

Arguments

  • reference (Optional – reference)
    เซลล์หรือช่วงเซลล์ที่ต้องการค่าเลขแถว ถ้าไม่ระบุ จะใช้เซลล์ที่มีฟังก์ชันนี้ในนั้นแทน ถ้า reference เป็นช่วงแถวระหว่าง ROW จะคืนค่าตัวเลขแถวตามแนวตั้ง reference ต้องเป็นช่วงต่อเนื่องเดียวเท่านั้น ไม่สามารถอ้างถึงหลายโซนพื้นที่ได้

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =ROW(C10)
    Description: ดึงเลขแถวของเซลล์ C10
    Result:10 (C10 อยู่ที่แถวที่ 10)
  • Formula:
    =ROW()
    Description: ดึงเลขแถวของเซลล์ที่ฟังก์ชันนี้ถูกใส่อยู่ เช่น ใส่ในเซลล์ B5 จะได้ค่าเป็นเลขแถวที่ 5
    Result: 5 (เลขแถวที่ฟังก์ชันนี้ถูกใส่อยู่)
  • Formula:
    =ROW(A4:C8)
    Description: เรียกเลขแถวของช่วง A4 ถึง C8 ซึ่งเป็น array ของหมายเลขแถว
    Result: {4,5,6,7,8} แต่ได้แค่ 4 ถ้าใช้ Excel เก่า
  • Formula:
    =@ROW(A4:C8)
    Description: ใช้ ROW ใน Excel 365 จะคืนค่าแถวในรูป array ต้องใช้ @ROW เพื่อเลือกค่าแถวเดียว ถ้าต้องการคืนค่าแถวต้นสุด
    Result: 4
  • Formula:
    =MOD(ROW(), 2)=0
    Description: ตรวจสอบว่าเลขแถวปัจจุบันใน Excel เป็น เลขคู่ หรือไม่
    Result:ได้ค่า TRUE/FALSE ขึ้นอยู่กับว่าเลขแถวเป็นเลขคู่ เช่น 2, 4, 6,… หรือไม่?

Tips & Tricks

ใน Excel 365 คุณสามารถใช้ ROW เพื่อให้ได้ค่าแถวในรูปแบบ dynamic array เพื่อนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การรวมแถวที่ n หรือการตั้งค่าเงื่อนไข formatting สำหรับแถวคู่และแถวคี่

ข้อควรระวัง (Cautions)

ROW ต้องการให้ reference เป็นช่วงต่อเนื่องเดียวเท่านั้น การอ้างหลายๆ ช่วงจะทำให้เกิดความผิดพลาด และถ้าคุณใช้ ROW กับช่วงที่กว้างมากอาจจะกระทบต่อประสิทธิภาพได้ โดยเฉพาะถ้าใช้ในสูตร array ที่ซับซ้อน

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot