TLDR สรุปสั้นๆ
SEARCH ใช้หาตำแหน่งเริ่มต้นของข้อความหนึ่งในข้อความอีกข้อความหนึ่ง โดยไม่สนใจตัวพิมพ์เล็ก-ใหญ่
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน SEARCH ใช้ค้นหาตำแหน่งของข้อความหนึ่งในข้อความอีกข้อความหนึ่ง และคืนค่าตำแหน่งของอักขระตัวแรกของข้อความแรก โดยไม่สนใจตัวพิมพ์เล็ก-ใหญ่ และรองรับการใช้ Wildcard ด้วย
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
SEARCH(find_text, within_text, [start_num])Arguments
-
find_text (Required – Text)
ข้อความที่ต้องการค้นหา -
within_text (Required – Text)
ข้อความหรือช่วงข้อความที่ต้องการค้นหา -
start_num (Optional – Number)
ตำแหน่งเริ่มต้นในการค้นหา ถ้าไม่ระบุจะเริ่มจากตำแหน่งที่ 1
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
- Formula:
Description: ค้นหาตำแหน่งของตัวอักษร ‘m’ ในคำว่า ‘Minimum’ โดยไม่สนใจพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่=SEARCH("m","Minimum")
Result:1 (เพราะตัวแรกคือ M แม้จะเป็นพิมพ์ใหญ่ก็ตาม)
- Formula:
Description: ค้นหาตำแหน่งของตัวอักษร ‘m’ ในคำว่า ‘Minimum’ โดยไม่สนใจพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ แต่เริ่มหาที่ตัวที่ 2=SEARCH("m","Minimum",2)
Result: 5 (เพราะเจอตัว m ตัวถัดไป) - Formula:
Description: ค้นหาตำแหน่งของคำว่า ‘Base’ ในคำว่า ‘database’=SEARCH("Base", "database")
Result:5 (คำว่า ‘base’ เริ่มที่อักษรตัวที่ 5 ในคำว่า ‘database’ ) - Formula:
Description: หาคำอะไรก็ได้ที่ลงท้ายด้วย ni=SEARCH("*ni","Minimum")
Result: 1 (เจอคำว่า Min ตั้งแต่ตำแหน่งแรก)
- Formula:
Description: หาคำอะไรก็ได้ที่ขึ้นด้วยด้วย mum แล้วตามด้วยอักขระอะไรก็ได้อีก 1 ตัว=SEARCH("mum?","Minimum")
Result: VALUE! (หาไม่เจอ เพราะ mum เป็นคำลงท้ายแล้ว)
Tips & Tricks
สามารถใช้ wildcards เพื่อการค้นหาที่มีรูปแบบไม่เฉพาะเจาะจง เช่น ‘?’ ใช้แทนตัวอักษรตัวเดียว และ ‘*’ ใช้แทนกลุ่มตัวอักษร นอกจากนี้ให้ใช้ IFERROR ร่วมกับ SEARCH เพื่อป้องกันการแสดงค่าเป็น #VALUE! เมื่อไม่พบข้อมูลการค้นหา
ข้อควรระวัง (Cautions)
SEARCH ไม่สนกรณีอักษร ซึ่งต่างจาก FIND ที่สนกรณี หากต้องการค้นหาเคสเซนซิทีฟให้ใช้ FIND และเมื่อไม่พบข้อความค้นหา ฟังก์ชันจะคืนค่า #VALUE! ซึ่งอาจต้องการจัดการด้วย IFERROR เพื่อไม่ให้แสดงข้อผิดพลาด
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply