TLDR สรุปสั้นๆ
DEC2OCT ใช้แปลงตัวเลขในฐานสิบไปยังฐานแปด สามารถรองรับค่าลบได้ด้วยวิธีแสดงผลแบบสองซึ่งเติมเต็ม (Two’s Complement) ใช้ padding ด้วย option places เพื่อเพิ่มความยาวของผลลัพธ์
คำอธิบาย
แปลงตัวเลขฐานสิบเป็นฐานแปด
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
DEC2OCT(number, [places])
Arguments
-
number (Required – integer)
ตัวเลขฐานสิบที่ต้องการแปลง ถ้าเป็นตัวเลขลบก็จะใช้การแสดงผลแบบสิบตัวอักษรและจะใช้ตำแหน่งสูงสุดเป็นตัวกำหนดเครื่องหมาย ส่วน 29 บิทที่เหลือเป็นบิทของค่าตัวเลข -
places (Optional – integer)
จำนวนตัวอักษรที่ต้องการใช้ ถ้าปล่อยว่างไว้จะใช้จำนวนตัวอักษรขั้นต่ำที่จำเป็น โดยทั่วไปจะใช้สำหรับเติมเลข 0 ด้านหน้าคำตอบ
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: แปลงเลขฐานสิบ 58 เป็นเลขฐานแปด โดยมีสามตำแหน่ง=DEC2OCT(58, 3)
Result:072 (มีการเติมเลข 0 ที่ด้านหน้าเพื่อให้ครบ 3 ตำแหน่ง) -
Formula:
Description: แปลงเลขฐานสิบลบ 100 เป็นเลขฐานแปด=DEC2OCT(-100)
Result:7777777634 (ใช้การแสดงผลแบบสองซึ่งเสริมหมายเลข) -
Formula:
Description: แปลงเลขฐานสิบ 45 เป็นเลขฐานแปดโดยไม่ระบุตำแหน่ง=DEC2OCT(45)
Result:55 (แสดงผลแบบขั้นต่ำที่จำเป็น) -
Formula:
Description: แปลงเลขฐานสิบ 45 เป็นเลขฐานแปด โดยมีสี่ตำแหน่ง=DEC2OCT(45, 4)
Result:0055 (มีการเติมเลข 0 ที่ด้านหน้าเพื่อให้ครบ 4 ตำแหน่ง) -
Formula:
Description: ลองแปลงเลขฐานสิบที่ค่อนข้างใหญ่ ค่าที่เกินขีดจำกัดจะทำให้เกิด #NUM!=DEC2OCT(999999)
Result:#NUM! (เลขนอกช่วงที่ยอมรับ) -
Formula:
Description: ลองแปลงข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข=DEC2OCT("abc")
Result:#VALUE! (ข้อมูลไม่เป็นตัวเลข)
Tips & Tricks
คุณสามารถใช้เอกซ์เซลเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์โดยใช้ฟังก์ชัน DEC2BIN เพื่อตรวจสอบคำตอบก่อนที่จะแปลงอัตโนมัติให้แน่ใจ และคุณสามารถใช้ Pivot Tables วิเคราะห์ข้อมูลที่แปลงแล้วเพื่อสรุปข้อมูลได้
ข้อควรระวัง (Cautions)
ควรระวังตัวเลขที่อยู่ในช่วงที่ฟังก์ชันไม่รองรับ ซึ่งคือ -536,870,912 ถึง 536,870,911 จะส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดเป็น #NUM! และควรวิเคราะห์ค่าที่ส่งเข้าฟังก์ชันเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นตัวเลขและเป็นจำนวนเต็ม
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply