คำอธิบาย
ฟังก์ชันนี้ใช้สำหรับการคำนวณค่าทังเจนต์ของมุมที่กำหนด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในฟังก์ชันสำคัญของตรีโกณมิติ เหมาะสมกับการใช้งานทางคณิตศาสตร์และวิศวกรรมมากมาย!
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
Excel 2003
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
TAN(number)
Arguments
-
number (Required – number)
มุมในหน่วยเรเดียนที่ต้องการหาค่าทังเจนต์
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ทังเจนต์ของ 0.785 เรเดียน=TAN(0.785)
Result:ประมาณ 0.99920 ซึ่งเป็นค่าทังเจนต์ของ 0.785 เรเดียน -
Formula:
Description: ทังเจนต์ของ 45 องศาโดยแปลงเป็นเรเดียนก่อน=TAN(45*PI()/180)
Result:1 ซึ่งเป็นค่าทังเจนต์ของ 45 องศา -
Formula:
Description: ทังเจนต์ของ 45 องศาโดยใช้ฟังก์ชัน RADIANS=TAN(RADIANS(45))
Result:1 ซึ่งเป็นค่าทังเจนต์ของ 45 องศา -
Formula:
Description: ทังเจนต์ของ 30 องศาในงานออกแบบภูมิทัศน์โดยแปลงเป็นเรเดียน=TAN(RADIANS(30))
Result:ประมาณ 0.577 ซึ่งแสดงต่อด้านตรงข้ามต่อด้านประชิดในสามเหลี่ยมมุม 30 องศา -
Formula:
Description: ใช้ TAN ร่วมกับ IF เพื่อแสดงความลาดชันว่าชันหรือรับได้=IF(TAN(RADIANS(A1)) > 1, "Steep", "Manageable")
Result:แสดงผลเป็น "Steep" หรือ "Manageable" ขึ้นอยู่กับค่า TAN ที่ได้จากเซลล์ A1
Tips & Tricks
อย่าลืมแปลงมุมจากองศาเป็นเรเดียนก่อนใช้ TAN ฟังก์ชัน และลองใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น IF หรือ ATAN เพื่อทำสิ่งที่ซับซ้อนขึ้นได้นะ!
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังเรื่องการแปลงมุมจากองศาเป็นเรเดียนด้วย เพราะหากผิดพลาด ผลลัพธ์จะแตกต่างออกไป ทั้งนี้ TAN คืนค่าออกมาเป็นอัตราส่วน ไม่ได้เป็นมุมตามที่เคยคิดว่าเป็น!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดีคือฟังก์ชัน TAN เป็นเครื่องมือสำคัญในการคำนวณด้านตรีโกณมิติ แต่ข้อจำกัดก็อยู่ตรงที่ผู้ใช้ต้องระวังเรื่องหน่วยมุมที่ใช้เป็นหลัก หากใช้ผิดประเภท ค่าที่ได้ก็จะผิดพลาด
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply