TLDR สรุปสั้นๆ
CHITEST ทดสอบความสัมพันธ์ของข้อมูลโดยใช้การแจกแจงแบบไค-สแควร์และค่าที่คาดการณ์
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน CHITEST ใช้ในการทดสอบความเป็นอิสระ (independence) โดยจะคืนค่าจากการแจกแจงแบบไค-สแควร์ (χ2) สำหรับค่าทางสถิติและค่าวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม โดยทั่วไปจะใช้ในการตรวจสอบว่าผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้มีความสอดคล้องกับผลลัพธ์จากการทดลองหรือไม่
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
Excel 2003 หรือก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
CHITEST(actual_range, expected_range)
Arguments
-
actual_range (Required – Range)
ช่วงของข้อมูลจริงที่ประกอบด้วยการสังเกตการณ์ที่จะถูกทดสอบกับค่าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น -
expected_range (Required – Range)
ช่วงของข้อมูลที่ประกอบด้วยอัตราส่วนของผลคูณของผลรวมแถวและคอลัมน์กับผลรวมทั้งหมด
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ทดสอบสถิติไค-สแควร์สำหรับข้อมูลที่ให้มา=CHITEST(A2:B4, A6:B8)
Result:0.0003082 แสดงถึงโอกาสที่ค่าของสถิติไค-สแควร์ที่สูงอย่างน้อยเท่ากับค่าที่คำนวณจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ (ชนิดตัวเลขประเภท decimal) -
Formula:
Description: เปรียบเทียบความเป็นอิสระของข้อมูลจริงและข้อมูลที่คาดหวังในช่วงที่ใหญ่ขึ้น=CHITEST(C2:D10, E2:F10)
Result:ผลลัพธ์ที่ยากจะคาดเดา โดยทั่วไปจะแสดงผลเป็นค่าแบบทศนิยม -
Formula:
Description: ใช้ CHITEST กับอาร์เรย์ข้อมูลที่กำหนดภายในฟังก์ชัน=CHITEST({20, 15; 25, 30}, {22, 18; 28, 27})
Result:ผลลัพธ์เป็นตัวเลขที่แสดงโอกาสความสัมพันธ์ของข้อมูล (decimal) -
Formula:
Description: ทดสอบกับข้อมูลที่คอลัมน์เดียวกันทั้งสอง ค่าที่สัมพันธ์กันจากค่า A และค่า B=CHITEST(A1:A10, B1:B10)
Result:หากข้อมูลไม่สัมพันธ์กันจะได้ค่าเป็นจำนวนน้อย (decimal) -
Formula:
Description: ทดสอบค่าไค-สแควร์จากอาร์เรย์ที่ทำให้คำนวณอย่างง่าย=CHITEST({1,2,3},{2,3,4})
Result:ผลลัพธ์เป็นตัวเลขที่แสดงค่าความสัมพันธ์ (decimal)
Tips & Tricks
แนะนำให้ใช้ฟังก์ชัน CHISQ.TEST ใน Excel เวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า เพื่อความแม่นยำที่ดีกว่า
ข้อควรระวัง (Cautions)
ความแตกต่างระหว่าง actual_range และ expected_range จะทำให้เกิดข้อผิดพลาด #N/A หากจำนวนข้อมูลไม่เท่ากัน
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply