TLDR สรุปสั้นๆ

MDETERM หาค่า determinant ของเมทริกซ์จากอาเรย์ที่เป็นตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัส

คำอธิบาย

MDETERM เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการหาค่า determinant ของเมทริกซ์ ซึ่งเป็นค่าตัวเลขที่ได้มาจากตารางของตัวเลขในกลุ่มตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัส

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2003 or earlier

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

MDETERM(array)

Arguments

  • array (Required – numeric array)
    Array คืออาเรย์ของตัวเลขที่มีจำนวนแถวและจำนวนคอลัมน์เท่ากัน เช่น ตารางที่มีขนาดเป็น 3×3 หรือ 4×4

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =MDETERM(A2:D5)
    Description: หาค่าเมทริกซ์ determinant ของข้อมูลในช่วงเซลล์ A2 ถึง D5
    Result:88 (ค่าดีเทอร์มินันต์ของเมทริกซ์ที่มีค่าเป็น 88)
  • Formula:
    =MDETERM({3,6,1;1,1,0;3,10,2})
    Description: หาค่าเมทริกซ์ determinant จากค่าคงที่ในรูปแบบอาเรย์
    Result:1 (ค่าผลลัพธ์คือ 1 โดยคำนึงถึงลำดับในการคูณและหาค่า)
  • Formula:
    =MDETERM({3,6;1,1})
    Description: หาค่าเมทริกซ์ determinant จากอาเรย์ขนาด 2×2
    Result:-3 (ข้อควรสังเกตคือถ้าแถวและคอลัมน์ไม่เท่ากันจะเกิดข้อผิดพลาด)
  • Formula:
    =MDETERM({1,3,8,5;1,3,6,1})
    Description: ส่งคืนข้อผิดพลาดเนื่องจากอาเรย์ไม่มีจำนวนแถวและคอลัมน์ที่เท่ากัน
    Result:#VALUE! (เกิดข้อผิดพลาดเพราะแถวและคอลัมน์ไม่เท่ากัน)
  • Formula:
    =MDETERM(B2:E5)*2
    Description: นำค่าดีเทอร์มินันต์ที่ได้จากการคำนวณมาคูณด้วย 2
    Result:ค่าผลลัพธ์จะเป็น 2 เท่าของ 88 ซึ่งก็คือ 176

Tips & Tricks

MDETERM นั้นเหมาะมากเมื่อคุณต้องการหาค่าดีเทอร์มินันต์สำหรับการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ เช่น การหาค่าตัวแปรที่ไม่มีตัวตน หรือการทำแบบจำลองเชิงเส้น (Linear Modeling)

ข้อควรระวัง (Cautions)

ถ้ามีเซลล์ว่างหรือมีตัวอักษรในอาเรย์ MDETERM จะส่งคืนค่าความผิดพลาดที่ชื่อว่า #VALUE! และควรระวังว่าเมทริกซ์ที่ส่งเข้าไปต้องมีจำนวนแถวและคอลัมน์เท่ากันเท่านั้น

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot