TLDR สรุปสั้นๆ
MMULT ใช้คูณเมทริกซ์สองเมทริกซ์ และต้องให้ขนาดเมทริกซ์ตรงกันตามกฎ
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน MMULT ใช้ในการคูณเมทริกซ์สองเมทริกซ์เข้าด้วยกัน ผลลัพธ์จะเป็นเมทริกซ์ที่มีจำนวนแถวเท่ากับ array1 และมีจำนวนคอลัมน์เท่ากับ array2
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
Excel 2003
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
MMULT(array1, array2)
Arguments
-
array1 (Required – Array)
เมทริกซ์แรกที่คุณต้องการคูณ ต้องมีเฉพาะตัวเลขและจำนวนคอลัมน์ต้องเท่ากับจำนวนแถวใน array2 -
array2 (Required – Array)
เมทริกซ์ที่สองที่คุณต้องการคูณ ต้องมีเฉพาะตัวเลขและจำนวนแถวต้องเท่ากับจำนวนคอลัมน์ใน array1
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาผลคูณเมทริกซ์สองชุด ผลจะเป็นเมทริกซ์ที่มีแถวตาม array1 และคอลัมน์ตาม array2=MMULT(A1:B2, C1:D3)
Result:ผลลัพธ์คือ #VALUE! เนื่องจากจำนวนคอลัมน์ของ array1 ไม่เท่าจำนวนแถวของ array2 -
Formula:
Description: คูณเมทริกซ์สองชุดที่ถูกกำหนดค่าคงที่ในฟังก์ชัน=MMULT({1,2;3,4}, {5,6;7,8})
Result:ผลลัพธ์คือ {(19, 22); (43, 50)} เป็น array ที่ออกมาเป็นเมทริกซ์ 2×2 -
Formula:
Description: คูณเมทริกซ์สองชุดด้วยข้อมูลในเซลล์ A1 ถึง B3 และ D1 ถึง E2=MMULT(A1:B3, D1:E2)
Result:ผลเป็น #VALUE! เนื่องจากไม่สามารถคูณได้เนื่องจากขนาดไม่ตรงกัน -
Formula:
Description: การคูณเมทริกซ์ที่มีขนาดพอดีกันสามารถใช้ฟังก์ชันนี้คูณได้=MMULT(A1:B2, A1:A2)
Result:ได้ผลลัพธ์เป็น array ค่าตัวเลข ที่กล่าวถึงการคูณในแบบของเมทริกซ์ -
Formula:
Description: ใช้ฟังก์ชัน TRANSPOSE ร่วมกับ MMULT เพื่อหาผลลัพธ์ที่น่าสนใจ=MMULT(TRANSPOSE(A1:C2), A1:C2)
Result:ผลลัพธ์จะเป็นการคูณเมทริกซ์ที่เกิดจากการสลับแถวและคอลัมน์ ซึ่งจะได้ output ใหม่จากรูปแบบเดิม
Tips & Tricks
การใช้ MMULT ร่วมกับฟังก์ชันเช่น TRANSPOSE จะช่วยให้คุณสามารถทดลองรูปแบบการคูณเมทริกซ์ที่หลากหลายมากขึ้น การจัดเรียงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของ array ที่เหมาะสมจะช่วยให้การคำนวณถูกต้อง
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังเรื่องจำนวนคอลัมน์ของ array1 ต้องเท่ากับจำนวนแถวของ array2 หากไม่ตรงกันจะเกิด error และอย่าลืมจัดการฟังก์ชันในลักษณะ array formula ด้วยการใช้ CTRL+SHIFT+ENTER สำหรับผู้ใช้ในเวอร์ชั่นเก่าหรือที่ไม่สนับสนุน dynamic arrays
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply