TLDR สรุปสั้นๆ

แปลงเลขฐานสองเป็นฐานแปดด้วยฟังก์ชัน BIN2OCT และสามารถกำหนดสถานะการเติมศูนย์นำหน้าได้

คำอธิบาย

แปลงเลขฐานสองเป็นเลขฐานแปดใน Microsoft Excel

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

Excel 2003

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

BIN2OCT(number, [places])

Arguments

  • number (Required – string)
    เลขฐานสองที่ต้องการจะแปลง ต้องไม่เกิน 10 ตัวอักษร (10 บิต)
  • places (Optional – integer)
    จำนวนตำแหน่งที่ต้องการให้ผลลัพธ์แสดง ถ้าไม่ได้ระบุจะใช้จำนวนขั้นต่ำที่จำเป็น

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =BIN2OCT(1001, 3)
    Description: แปลงเลขฐานสอง 1001 เป็นเลขฐานแปด โดยแสดง 3 ตำแหน่ง
    Result:011 (ถูกเติมด้วยเลขศูนย์ที่นำหน้าให้ครบ 3 ตำแหน่ง)
  • Formula:
    =BIN2OCT(1100100)
    Description: แปลงเลขฐานสอง 1100100 เป็นเลขฐานแปด
    Result:144 (ผลลัพธ์แบบไม่ระบุตำแหน่งจะใช้ตำแหน่งขั้นต่ำ)
  • Formula:
    =BIN2OCT(1111111111)
    Description: แปลงเลขฐานสอง 1111111111 เป็นเลขฐานแปด
    Result:7777777777 (เมื่อแปลงผลลัพธ์ของจำนวนติดลบจะถูกแสดงในแบบ 10 ตำแหน่ง)
  • Formula:
    =BIN2OCT("110110")
    Description: แปลงเลขฐานสอง 110110 เป็นเลขฐานแปด
    Result:66 (ผลลัพธ์ของการแปลงเลขฐานสองปกติ)
  • Formula:
    =BIN2OCT("1010", 4)
    Description: แปลงเลขฐานสอง 1010 เป็นเลขฐานแปดพร้อมระบุ 4 ตำแหน่ง
    Result:0012 (ถูกเติมด้วยเลขศูนย์ที่นำหน้าให้ครบ 4 ตำแหน่ง)

Tips & Tricks

หากต้องการเติมศูนย์นำหน้าจะสามารถทำได้โดยกำหนดจำนวนตำแหน่งใน argument “places” และสามารถใช้ฟังก์ชัน BIN2OCT ร่วมกับฟังก์ชันแปลงฐานอื่น ๆ เช่น DEC2BIN หรือ OCT2BIN เพื่อสร้างการแปลงที่ซับซ้อนขึ้น

ข้อควรระวัง (Cautions)

หากระบุค่าที่ไม่ใช่ตัวเลขฐานสองหรือเกินกว่า 10 ตัวอักษรใน argument “number” ฟังก์ชันจะส่งคืนข้อผิดพลาด #NUM! และถ้าค่าของ “places” ไม่ใช่จำนวนเต็มจะถูกตัดทศนิยมและหากค่าที่ได้ไม่อยู่ในช่วง 1 ถึง 10 จะได้รับข้อผิดพลาด #NUM! ด้วย

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot