BITXOR

TLDR สรุปสั้นๆ

BITXOR คำนวณ Excluxive Or ของเลขฐานสองสองค่าให้ค่าที่ไม่เหมือนกันในบิตใดบิตหนึ่ง

คำอธิบาย

ฟังก์ชัน BITXOR ทำงานด้านบิต พบผลลัพท์ที่เป็นการเปรียบเทียบแบบ ‘XOR’ ของเลขฐานสองสองตัว โดยจะคืนค่าตัวเลขที่เป็นผลรวมของแต่ละบิตที่แตกต่างกันในตำแหน่งเดียวกัน

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

Excel 2013

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

BITXOR(number1, number2)

Arguments

• number1 (Required – Number)
  ค่าหมายเลขที่ 1 ต้องมีค่าไม่ต่ำกว่า 0
• number2 (Required – Number)
  ค่าหมายเลขที่ 2 ต้องมีค่าไม่ต่ำกว่า 0

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

• Formula:

  =BITXOR(5,3)

  Description: คำนวณการเปรียบเทียบแบบ 'Exclusive Or' ของ 5 และ 3 ในรูปแบบบิต
  Result:6 (เพราะ 5 เป็น 101, 3 เป็น 011 ที่บิตตำแหน่งที่ไม่เหมือนกันให้ค่าเป็น 1: 4+2=6)
  
• Formula:

  =BITXOR(12,10)

  Description: คำนวณการเปรียบเทียบแบบ 'Exclusive Or' ของ 12 และ 10 ในรูปแบบบิต
  Result:6 (เพราะ 12 เป็น 1100, 10 เป็น 1010 ที่บิตตำแหน่งที่ไม่เหมือนกันให้ค่าเป็น 1: 4+2=6)
  
• Formula:

  =BITXOR(10,5)

  Description: คำนวณการเปรียบเทียบแบบ 'Exclusive Or' ของ 10 และ 5 ในรูปแบบบิต
  Result:15 (เพราะ 10 เป็น 1010, 5 เป็น 0101 ที่บิตตำแหน่งที่ไม่เหมือนกันให้ค่าเป็น 1: 8+4+2+1=15)
  
• Formula:

  =SUMPRODUCT(--(MID(DEC2BIN(B1), ROW(INDIRECT(ADDRESS(1,1)&":"&ADDRESS(LEN(DEC2BIN(B1)),1))), 1)<>MID(DEC2BIN(C1), ROW(INDIRECT(ADDRESS(1,1)&":"&ADDRESS(LEN(DEC2BIN(C1)),1))), 1)) * 2^(LEN(DEC2BIN(B1))-ROW(INDIRECT(ADDRESS(1,1)&":"&ADDRESS(LEN(DEC2BIN(B1)),1))))))

  Description: การคำนวนแบบเดียวกับ BITXOR ด้วยการแยกบิตของตัวเลขไปทําการคํานวนเอง
  Result:ค่าเดียวกับรัน BITXOR(B1,C1) เหมาะสําหรับการเรียนรู้โครงสร้างการทำงาน
  
• Formula:

  =BITXOR(A1,A2) + BITXOR(A3,A4)

  Description: ใช้ฟังก์ชัน BITXOR ในการคำนวณค่า Pair หลายคู่ เพื่อยืดหยุ่นในการใช้งานต่อเนื่อง
  Result:การรวมผลลัพท์ BITXOR ของคู่อย่างต่อเนื่อง
  

Tips & Tricks

BITXOR มักใช้เมื่อคุณต้องการเปรียบเทียบค่าตัวเลขในรูปแบบบิตโดยตรง โดยไม่ต้องแปลงเอง สามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับฐานสองเช่น DEC2BIN เพื่อแสดงผลลัพธ์แบบบิตง่าย ๆ

ข้อควรระวัง (Cautions)

BITXOR ต้องระวังเมื่อตัวเลขเกิน (2^48)-1 หรือมีค่าต่ำกว่า 0 จะส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด #NUM! และหากค่า input ไม่ใช่ตัวเลขจะได้ข้อผิดพลาด #VALUE! เช่นกัน

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

• BITAND
• BITOR
• BITNOT

References

• Microsoft Documentation

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️