CODE

TLDR สรุปสั้นๆ

CODE แปลอักษรตัวแรกในสตริงให้เป็นรหัสตัวเลข ASTM เหมาะกับการตรวจสอบและจัดการข้อความใน Excel.

คำอธิบาย

แปลงตัวอักษรตัวแรกของสตริงเป็นรหัสตัวเลข (ASCII) ที่สอดคล้องตามชุดตัวอักษรที่ใช้งาน เช่น ANSI หรือชุดตัวอักษรของ Macintosh ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการที่ใช้

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

Excel 2003 หรือ Version ก่อนหน้า

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

CODE(text)

Arguments

• text (Required – string)
  ข้อความที่ต้องการแปลงตัวอักษรแรกของสตริงให้เป็นรหัส ASCII

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

• Formula:

  =CODE("A")

  Description: แสดงรหัสตัวเลขของตัวอักษร A
  Result:65 (ตัวอักษร A ในชุด ANSI มีค่า 65)
  
• Formula:

  =CODE("!")

  Description: แสดงรหัสตัวเลขของเครื่องหมายอัศเจรีย์
  Result:33 (เครื่องหมาย ! มีค่า 33 ในชุด ANSI)
  
• Formula:

  =CODE("abc")

  Description: แปลงตัวอักษรแรกของสตริง abc ให้เป็นรหัสตัวเลข
  Result:97 (ตัวอักษร a ในชุด ANSI มีค่า 97)
  
• Formula:

  =IF(CODE(LEFT(A1,1))>=65,"Letter","Not a Letter")

  Description: เช็คว่าตัวอักษรแรกของค่าในเซลล์ A1 เป็นตัวอักษรหรือไม่
  Result:"Letter" หรือ "Not a Letter" ขึ้นอยู่กับค่าที่ A1
  
• Formula:

  =CODE(LEFT("[email address]",1))

  Description: แสดงรหัสตัวเลขของตัวอักษรแรกในอีเมลแอดเดรส
  Result:การแสดงรหัสของสัญลักษณ์เริ่มต้นของอีเมล ตัวอย่างเช่น หากเริ่มต้นด้วย A จะแสดง 65
  

Tips & Tricks

ฟังก์ชัน CODE ใช้ตำแหน่งตัวอักษรแรกเป็นค่าเท่านั้น หากต้องการตรวจสอบตัวอักษรในตำแหน่งที่เจาะจงในสตริง ควรใช้ร่วมกับฟังก์ชัน LEFT, RIGHT, หรือ MID ได้

ข้อควรระวัง (Cautions)

ฟังก์ชันนี้ใช้งานกับตัวอักษรตัวแรกเท่านั้น ถ้าใส่สตริงยาวไปมันจะดูแค่ตัวแรก ทำให้ค่าความแตกต่างน้อยได้ เช่น การแสดงผลผิดหรือไม่สนใจอักษรหลังจากนั้น

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

• CHAR
• UNICODE
• UNICHAR
• LEFT
• RIGHT
• MID

References

• Microsoft Official Documentation
• The Bricks Guide on CODE Function
• Exceljet on CODE Function

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️