TLDR สรุปสั้นๆ
DAYS หาจำนวนวันระหว่างสองวันที่กำหนด
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน DAYS ใช้ในการคำนวณจำนวนวันระหว่างสองวันที่กำหนด
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2013
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
DAYS(end_date, start_date)
Arguments
-
end_date (Required – Date)
วันที่สิ้นสุด เป็นวันที่ล่าสุดในสองวันที่ต้องการหาจำนวนวันที่แตกต่าง -
start_date (Required – Date)
วันที่เริ่มต้น เป็นวันที่เริ่มต้นในสองวันที่ต้องการหาจำนวนวันที่แตกต่าง
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาจำนวนวันระหว่างวันที่ 15 มีนาคม 2021 ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2021 โดยไม่ต้องใช้อ้างอิงเซลล์ ให้ใส่วันที่ในฟังก์ชันโดยใช้เครื่องหมายฟันหนู " "=DAYS("15-MAR-2021","1-FEB-2021")
Result:42 (วันที่ 15 มีนาคม 2021 มากกว่า 1 กุมภาพันธ์ 2021 อยู่ 42 วัน) -
Formula:
Description: หาจำนวนวันระหว่างวันที่ในเซลล์ A2 และ A3=DAYS(A2,A3)
Result:364 (วันที่ใน A2 มากกว่าที่ใน A3 อยู่ 364 วัน) -
Formula:
Description: คำนวณจำนวนวันโดยกำหนดวันที่เริ่มต้นในเซลล์ A1 และวันที่สิ้นสุดในเซลล์ B1=DAYS(B1,A1)
Result:ผลลัพธ์เป็นจำนวนวันระหว่างวันที่ใน B1 และ A1 -
Formula:
Description: คำนวณจำนวนวันจากวันที่ปัจจุบันถึงวันที่ในเซลล์ A1 ใช้ฟังก์ชัน TODAY เพื่อกำหนดวันที่ปัจจุบัน=DAYS(TODAY(), A1)
Result:จำนวนวันที่เหลือจนถึงวันที่ใน A1 -
Formula:
Description: ตัวอย่างการใช้งานวันในรูปแบบปี-เดือน-วันที่เพื่อความชัดเจน=DAYS("2023-01-01","2022-01-01")
Result:365 (ในปีธรรมดาที่ 1 มกราคม 2023 ถึง 1 มกราคม 2022 มีจำนวน 365 วัน)
Tips & Tricks
– ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเซลล์ที่มีข้อมูลวันที่ถูกฟอร์แมตเป็นวันที่ (Date) สามารถทำได้โดยการคลิกขวาที่เซลล์นั้นและเลือก ‘Format Cells’ > ‘Date’. – ถ้าเกิดข้อผิดพลาดเช่น #VALUE! ควรตรวจสอบรูปแบบวันที่ที่ป้อนให้ถูกต้อง. – สามารถใช้ฟังก์ชัน DAYS ร่วมกับฟังก์ชันอื่นๆ เช่น IF เพื่อการคำนวณที่ซับซ้อน
ข้อควรระวัง (Cautions)
– ถ้าอาร์กิวเมนต์วันที่มีค่าเป็นตัวอักษร ต้องมั่นใจว่าสามารถแปลงเป็นวันที่ได้อย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาจเกิด #VALUE! error. – DAYS อาจให้ค่าเป็นลบ หากกำหนด end_date ที่ต่ำกว่า start_date ซึ่งอาจทำให้การคำนวณบางอย่างไม่ถูกต้องถ้าไม่ระวัง.
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply