TLDR สรุปสั้นๆ
DROP เอาไว้นำแถวหรือคอลัมน์ออกจาก array เพื่อให้เหลือเฉพาะข้อมูลที่ต้องการ
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน DROP ใน Excel ช่วยให้เราสามารถนำแถวหรือคอลัมน์ออกจาก array เพื่อให้เหลือเฉพาะส่วนของข้อมูลที่เราต้องการ ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีที่เราต้องการลบ header หรือ footer ออกจากรายงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลล้วน ๆ
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
365
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
=DROP(array, rows, [columns])
Arguments
-
array (Required – range)
ช่วงของข้อมูลที่เราต้องการลบแถวหรือคอลัมน์ออก -
rows (Required – integer)
จำนวนแถวที่ต้องการลบ เลขบวกจะลบจากต้น เลขลบจะลบจากท้าย -
columns (Optional – integer)
จำนวนคอลัมน์ที่ต้องการลบ เลขบวกจะลบจากต้น เลขลบจะลบจากท้าย
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: กำจัดแถวแรก 2 แถวออกจาก array และแสดงเฉพาะแถวสุดท้าย=DROP(A2:C4,2)
Result:(7, 8, 9) คือผลหลังจากที่กำจัดแถวแรก 2 แถวออก -
Formula:
Description: กำจัดคอลัมน์แรก 2 คอลัมน์ออกจาก array และแสดงเฉพาะคอลัมน์สุดท้าย=DROP(A2:C4,,2)
Result:(3, 6, 9) คือผลที่ได้เมื่อกำจัดคอลัมน์ 2 ออก -
Formula:
Description: กำจัด 2 แถวสุดท้ายออกจาก array และแสดงเฉพาะแถวแรก=DROP(A2:C4,-2)
Result:(1, 2, 3) คือผลที่ได้เมื่อกำจัดแถวสุดท้าย 2 ออก -
Formula:
Description: กำจัดแถวแรก 2 แถวและคอลัมน์แรก 2 คอลัมน์ออกพร้อมกันจาก array=DROP(A2:C4,2,2)
Result:(9) คือผลที่ได้เมื่อทั้งแถวและคอลัมน์ถูกกำจัด -
Formula:
Description: กำจัดแถวแรก 5 แถวและคอลัมน์แรก 1 คอลัมน์ออกจาก array=DROP(A3:C16,5,1)
Result:แสดง array ที่เหลือหลังจากกำจัดแถวและคอลัมน์ตามที่ระบุ
Tips & Tricks
การใช้ค่าเลขลบสำหรับ rows หรือ columns ช่วยให้เราสามารถเลือกที่จะลบแถวหรือคอลัมน์จากปลายได้ และหากกำหนด rows หรือ columns เป็น 0 จะเกิดข้อผิดพลาด #CALC!
ข้อควรระวัง (Cautions)
ฟังก์ชันนี้ใช้งานได้ใน Excel 365 และ Excel Web เท่านั้น หากใช้ในเวอร์ชันที่เก่ากว่าอาจเกิดข้อผิดพลาด และหากกำหนดให้ลบแถวหรือคอลัมน์มากกว่าใน array จะเกิด #CALC!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply