คำอธิบาย
ฟังก์ชัน EDATE ใน Excel ใช้ในการคำนวณวันที่โดยระบุจำนวนเดือนที่ต้องการเพิ่มหรือลดจากวันที่เริ่มต้น มันจะช่วยในการคำนวณวันที่ที่ครบกำหนดหรือวันถึงกำหนดที่ตรงกับวันเดียวกันของเดือนที่ส่งเรื่องหรือออกเอกสาร
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
EDATE(start_date, months)
Arguments
-
start_date (Required – Date)
วันที่เริ่มต้นที่ต้องการให้ฟังก์ชันเริ่มคำนวณ ควรจะเป็นวันที่ที่ถูกใส่ด้วยฟังก์ชัน DATE หรือตัวเลขซีเรียลที่ได้จากผลของฟังก์ชันอื่น ๆ -
months (Required – Integer)
จำนวนเดือนที่ต้องการเพิ่มหรือลดจากวันที่เริ่มต้น ตัวเลขบวกจะเป็นอนาคต ตัวเลขลบจะเป็นอดีต
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: คำนวณวันที่ที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เดือนจากวันในเซลล์ A2=EDATE(A2, 1)
Result:วันที่ที่เพิ่มขึ้น 1 เดือนจากวันที่ในเซลล์ A2 -
Formula:
Description: คำนวณวันที่ที่ลดลง 1 เดือนจากวันในเซลล์ A2=EDATE(A2, -1)
Result:วันที่ที่ลดลง 1 เดือนจากวันที่ในเซลล์ A2 -
Formula:
Description: คำนวณวันที่ที่เพิ่มขึ้นอีก 2 เดือนจากวันในเซลล์ A2=EDATE(A2, 2)
Result:วันที่ที่เพิ่มขึ้น 2 เดือนจากวันที่ในเซลล์ A2 -
Formula:
Description: คำนวณวันที่ที่เพิ่มขึ้นอีก 3 เดือนจากวันที่ 1 มกราคม 2021=EDATE("1/1/2021", 3)
Result:วันที่ที่ได้คือ 1 เมษายน 2021 -
Formula:
Description: คำนวณวันที่ที่เพิ่มขึ้นอีก 6 เดือนจากวันที่วันนี้=EDATE(TODAY(), 6)
Result:วันที่ที่เพิ่มขึ้น 6 เดือนจากวันที่ปัจจุบัน
Tips & Tricks
การใช้ฟังก์ชัน EDATE เพื่อคำนวณวันที่ตามเดือนนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ลองใช้ EDATE กับ TODAY เพื่อหาวันที่ในอนาคต หรือใช้ MOD เพื่อรักษาค่าของเวลาเมื่อคุณคำนวณวันในรูปแบบที่มีเวลา
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังว่าถ้าค่า start_date ไม่ใช่วันที่ที่ถูกต้อง ฟังก์ชันจะคืนค่า #VALUE! และหากค่า months ไม่ใช่จำนวนเต็ม มันจะถูกตัดทอน (truncated) เพื่อให้เป็นจำนวนเต็ม
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
EDATE นั้นยอดเยี่ยมในการจัดการกับวันที่ในรูปแบบเดือน แต่ถ้าคุณต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นเกี่ยวกับวันหรือปี อาจต้องพิจารณาใช้ DATE
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply