TLDR สรุปสั้นๆ
EXPONDIST ใช้คำนวณความน่าจะเป็นการแจกแจงแบบเอ็กซ์โพเนนเชียลในรูปแบบสะสมหรือความหนาแน่นของความน่าจะเป็น
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน EXPONDIST ใน Excel ใช้สำหรับหาค่าของการแจกแจงแบบเอ็กซ์โพเนนเชียล. เป็นการใช้โหมดลระยะเวลาระหว่างเหตุการณ์ อาทิเช่น ระยะเวลาที่ใช้ในการเรียกดูเงินสดจากตู้ ATM อัตโนมัติ. สามารถใช้เพื่อหาความน่าจะเป็นที่กระบวนการจะใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที.
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
Excel 2003 หรือก่อน
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
EXPONDIST(x, lambda, cumulative)
Arguments
-
x (Required – number)
ค่าของฟังก์ชันที่ต้องการหาคำตอบ. -
lambda (Required – number)
ค่าพารามิเตอร์ที่จะใช้ในการคำนวณการแจกแจง. -
cumulative (Required – boolean)
ค่าตรรกะที่ระบุว่าจะแสดงรูปแบบใดของฟังก์ชัน ถ้าค่าเป็น TRUE จะคืนค่าฟังก์ชันการแจกแจงสะสม ถ้าเป็น FALSE จะคืนค่าฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็น
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาค่าฟังก์ชันการแจกแจงเอ็กซ์โพเนนเชียลสะสม รูปแบบการสะสมจากข้อมูลในเซลล์ A2 และ A3=EXPONDIST(A2, A3, TRUE)
Result:0.86466472 (เป็นค่าความน่าจะเป็นที่อยู่ระหว่าง 0-1) -
Formula:
Description: หาค่าฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็นการแจกแจงเอ็กซ์โพเนนเชียล โดยมีค่า x เท่ากับ 0.2 และ lambda คือ 10=EXPONDIST(0.2, 10, FALSE)
Result:1.35335283 (เป็นค่าฟังก์ชันความหนาแน่นของความน่าจะเป็น)
Tips & Tricks
ใช้ฟังก์ชัน EXPONDIST เพื่อสร้างแบบจำลองกระบวนการที่ไม่เกิดขึ้นตามกำหนดเวลา เช่น การเกิดเหตุการณ์สุ่ม เป็นต้น
ข้อควรระวัง (Cautions)
หาก x หรือลัมด้า (lambda) เป็นตัวอักษรหรือไม่ใช่ตัวเลข ฟังก์ชัน EXPONDIST จะคืนค่า #VALUE! และหาก x < 0 หรือ lambda ≤ 0 จะคืนค่า #NUM!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply