คำอธิบาย

ฟังก์ชัน FTEST ใน Excel ใช้ในการตรวจสอบว่าความจากเฉลี่ย (variances) ของตัวอย่างสองตัวมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่ เช่น ใช้เปรียบเทียบความหลากหลายของคะแนนสอบระหว่างโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชน

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2003 หรือ Version ก่อนหน้า

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

FTEST(array1, array2)

Arguments

  • array1 (Required – array)
    ช่วงข้อมูลแรกที่ต้องการวิเคราะห์
  • array2 (Required – array)
    ช่วงข้อมูลที่สองที่ต้องการวิเคราะห์

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =FTEST(A2:A6, B2:B6)
    Description: F-test สำหรับชุดข้อมูลเกี่ยวกับคะแนนสอบจากสองโรงเรียน
    Result:ความน่าจะเป็นที่ variance ของคะแนนสอบจากสองโรงเรียนไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ
  • Formula:
    =FTEST(A2:A10, B2:B10)
    Description: เปรียบเทียบความหลากหลายของเวลาการผลิตระหว่างกะการทำงานสองกะในโรงงาน
    Result:ความน่าจะเป็นที่ variance ของเวลาการผลิตระหว่างทั้งสองกะไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ
  • Formula:
    =FTEST(A2:A10, B2:B10)
    Description: การเปรียบเทียบความผันผวนของผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนสองตัว
    Result:ความน่าจะเป็นที่ variance ของผลตอบแทนพอร์ตการลงทุนสองพอร์ตไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ

Tips & Tricks

ควรใช้ F.TEST ฟังก์ชันในเวอร์ชัน Excel ที่ใหม่กว่าเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ฟังก์ชันนี้ยังเหมาะสำหรับการทดสอบที่มีตัวอย่างข้อมูลขนาดเล็ก หากได้ค่า #DIV/0! ให้ตรวจสอบจำนวนข้อมูลและค่า variance ให้ดี ๆ

ข้อควรระวัง (Cautions)

FTEST อาจจะไม่ได้อยู่ในเวอร์ชัน Excel ในอนาคต ควรเปลี่ยนไปใช้ F.TEST เนื่องจากฟังก์ชันนี้มีการพัฒนาให้แม่นยำมากขึ้น ระวังความผิดพลาดที่อาจเกิดจากข้อมูลที่ไม่ได้จัดเรียงอย่างถูกต้อง เช่นข้อมูลที่ไม่เป็นตัวเลข

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

ข้อดี / ข้อจำกัด

FTEST ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับการเปรียบเทียบ variance ในตัวอย่างเล็ก ๆ แต่ต้องระวังเรื่องความเข้ากันได้ในเวอร์ชัน Excel ใหม่ ๆ

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot