คำอธิบาย
ฟังก์ชันนี้ช่วยให้คุณสามารถดึงส่วนที่เป็นจำนวนจินตภาพออกมาจากเลขเชิงซ้อนได้ ซึ่งถ้าคุณเคยใช้วงจรไฟฟ้าหรือเลขคอมเพล็กซ์ การใช้ IMAGINARY จะเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการคำนวณใด ๆ ที่คุณต้องการ มันเหมือนการหาตัวตนของตัวละครในหนังไซไฟที่เต็มไปด้วยพลังจินตนาการเลย!
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
IMAGINARY(inumber)
Arguments
-
inumber (Required – complex number)
จำนวนคอมเพล็กซ์ที่คุณต้องการหาส่วนจินตภาพ มันต้องเป็นฟอร์แมตที่มี ‘i’ หรือ ‘j’ เช่น ‘3+4i’
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาส่วนจินตภาพจากเลขคอมเพล็กซ์ 3+4i=IMAGINARY("3+4i")
Result:ได้ผลลัพธ์เป็น 4 -
Formula:
Description: หาส่วนจินตภาพจากเลขคอมเพล็กซ์ 0-j=IMAGINARY("0-j")
Result:ได้ผลลัพธ์เป็น -1 -
Formula:
Description: หาส่วนจินตภาพจากเลขคอมเพล็กซ์ที่เป็นเพียงจำนวนจริง 4=IMAGINARY(4)
Result:ได้ผลลัพธ์เป็น 0 -
Formula:
Description: หาส่วนจินตภาพจากเซลล์ A1 ที่มีเลขคอมเพล็กซ์ เช่น '5+12i'=IMAGINARY(A1)
Result:ผลลัพธ์คือส่วนจินตภาพจากเลขคอมเพล็กซ์ในเซลล์นั้น เช่น 12 -
Formula:
Description: คำนวณผลรวมของส่วนจินตภาพจากสองเซลล์ที่มีเลขคอมเพล็กซ์=SUM(IMAGINARY(A1), IMAGINARY(A2))
Result:ผลรวมของส่วนจินตภาพจากเลขคอมเพล็กซ์ในเซลล์ A1 และ A2
Tips & Tricks
อย่าลืมใช้ความสามารถในการทำงานร่วมกับฟังก์ชันคอมเพล็กซ์อื่น ๆ เช่น `IMREAL` หรือ `COMPLEX` เพื่อการคำนวณที่คล่องตัวมากขึ้น! และจัดการกับเลขคอมเพล็กซ์หลาย ๆ ตัวพร้อมกันด้วยการใช้ฟังก์ชันอาเรย์!
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังรูปแบบของเลขคอมเพล็กซ์ต้องถูกต้อง และอย่าลืมใช้เครื่องหมาย ‘i’ หรือ ‘j’ ให้เหมาะสม มิฉะนั้นอาจเกิดข้อผิดพลาดได้!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ฟังก์ชัน IMAGINARY สะดวกสำหรับผู้ที่ทำงานกับเลขคอมเพล็กซ์ในด้านต่าง ๆ เช่น วิศวกรรมไฟฟ้า แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเมื่อจัดการกับจำนวนที่ไม่ใช่คอมเพล็กซ์ แต่การรวมกับฟังก์ชันอื่น ๆ จะช่วยให้มีความสามารถมากขึ้น
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply