คำอธิบาย

ฟังก์ชันนี้ใช้ในการหาค่าโคไซน์ของจำนวนเชิงซ้อนในรูปแบบ x + yi หรือ x + yj ค่ะ คิดซะว่ามันเหมือนคณิตศาสตร์เวอร์ชันไฟฟ้า ที่ใช้คำนวณมุมจากจำนวนเชิงซ้อนผ่านโคไซน์!

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2003 หรือ Version ก่อนหน้า

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

IMCOS(inumber)

Arguments

  • inumber (Required – complex number)
    จำนวนเชิงซ้อนที่คุณต้องการหาค่าโคไซน์ สามารถอยู่ในรูปแบบ x + yi หรือ x + yj ได้ค่ะ

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =IMCOS("1+i")
    Description: หาค่าโคไซน์ของจำนวนเชิงซ้อน 1 + i
    Result:จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนเชิงซ้อนที่โคไซน์คือ 0.8337 – 0.9889i ซึ่งแสดงถึงมุมที่คำนวณจากค่าเชิงซ้อนนี้
  • Formula:
    =IMCOS("2-3i")
    Description: หาค่าโคไซน์ของจำนวนเชิงซ้อน 2 – 3i
    Result:ผลลัพธ์จะเป็นจำนวนเชิงซ้อนที่แสดงถึงการคำนวณมุมโคไซน์จากค่าเชิงซ้อน 2 – 3i
  • Formula:
    =IMCOS(COMPLEX(0,1))
    Description: ใช้ฟังก์ชัน COMPLEX ในการสร้าง 0 + 1i ก่อน, แล้วหาค่าโคไซน์
    Result:เป็นอีกทางหนึ่งในการหาค่าโคไซน์ของจำนวนเชิงซ้อน
  • Formula:
    =IMCOS("0+0i")
    Description: หาค่าโคไซน์ของจำนวนเชิงซ้อนที่มีทั้งส่วนจริงและส่วนจินตภาพเป็น 0
    Result:ผลลัพธ์จะได้ค่าโคไซน์เป็น 1 เพราะไม่มีมุมเชิงซ้อนในการคำนวณ
  • Formula:
    =IMCOS("3+4i")
    Description: หาค่าโคไซน์ของจำนวนเชิงซ้อน 3 + 4i
    Result:แสดงผลลัพธ์แบบเชิงซ้อนที่คำนวณจากมุมของ 3 + 4i

Tips & Tricks

ลองใช้ IMCOS กับค่าเชิงซ้อนในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อเรียนรู้ความแตกต่าง! และอย่าลืมว่า Excel มีฟังก์ชันอย่าง COMPLEX ที่ช่วยคุณเปลี่ยนค่าจริงกับค่าจินตภาพให้เป็นจำนวนเชิงซ้อนได้ง่าย ๆ

ข้อควรระวัง (Cautions)

ระวัง! เวลาใส่ค่าความจริงที่ไม่ใช่จำนวนเชิงซ้อน Excel อาจจะกลับมาด้วย #VALUE! และทำให้คุณต้องคิดหนักว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

ข้อดี / ข้อจำกัด

ข้อดีของ IMCOS คือความสามารถในการคำนวณมุมจากค่าจำนวนเชิงซ้อน แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำงานกับค่าทางวิทยาศาสตร์หรือการคำนวณไฟฟ้า คุณอาจจะไม่ค่อยได้ใช้ฟังก์ชันนี้บ่อยนัก

References


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot