คำอธิบาย

ฟังก์ชันนี้ใช้สำหรับดึงค่าสัมประสิทธิ์จริงจากจำนวนเชิงซ้อนในรูปแบบ x + yi หรือ x + yj ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อเราต้องการทำงานกับจำนวนที่มีส่วนประกอบเชิงซ้อนแบบซับซ้อน!

มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

2003 หรือ Version ก่อนหน้า

รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

IMREAL(inumber)

Arguments

  • inumber (Required – Complex Number)
    จำนวนเชิงซ้อนที่คุณต้องการดึงค่าสัมประสิทธิ์จริงออกมา เช่น ‘4+5i’

ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

  • Formula:
    =IMREAL("6-9i")
    Description: ค่าสัมประสิทธิ์จริงของ 6-9i
    Result:ผลลัพธ์คือ 6
  • Formula:
    =IMREAL(B2)
    Description: สมมติว่าเซลล์ B2 มีค่าคือ '8+7i', ฟังก์ชันนี้จะดึงค่าสัมประสิทธิ์จริงออกมา
    Result:คุณจะได้ผลลัพธ์เป็น 8
  • Formula:
    =IMREAL(B2:B6)
    Description: ทำการดึงค่าสัมประสิทธิ์จริงจากช่วงของเซลล์ B2 ถึง B6 ซึ่งแต่ละเซลล์ประกอบไปด้วยจำนวนเชิงซ้อนเช่น '3+4i', '5+12i', เป็นต้น
    Result:คุณจะได้ค่าความจริงของแต่ละจำนวนเชิงซ้อนเช่น 3, 5, 7, ฯลฯ ในช่วงเซลล์ที่ตรงกัน
  • Formula:
    =SUM(IMREAL(B2:B6))
    Description: บวกค่าสัมประสิทธิ์จริงจากจำนวนเชิงซ้อนในช่วง B2 บวก B6
    Result:ผลลัพธ์คือผลรวมของค่าสัมประสิทธิ์จริงทั้งหมดในช่วงที่กำหนด
  • Formula:
    =IMREAL(COMPLEX(2, 5))
    Description: ใช้ฟังก์ชัน COMPLEX เพื่อสร้างจำนวนเชิงซ้อน '2+5i' และดึงค่าสัมประสิทธิ์จริงออกมา
    Result:ผลลัพธ์คือ 2

Tips & Tricks

ใช้ฟังก์ชัน COMPLEX เพื่อสร้างจำนวนเชิงซ้อนเมื่อคุณมีค่าจริงและค่าจินตภาพแยกกัน ส่วนใหญ่แล้วคุณสามารถใช้กับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น SUM เพื่อรวมค่าสัมประสิทธิ์จริงจากหลาย ๆ จำนวนเชิงซ้อน!

ข้อควรระวัง (Cautions)

ระวังการใช้ฟังก์ชันนี้กับจำนวนที่ไม่ใช่เชิงซ้อน อาจจะเกิดข้อผิดพลาดหรือไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง และจำเป็นต้องตรวจสอบการใช้ i หรือ j ให้ถูกต้องในจำนวนเชิงซ้อน

ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

ข้อดี / ข้อจำกัด

ฟังก์ชันนี้ทำให้การดึงค่าสัมประสิทธิ์จริงเป็นเรื่องง่ายและสะดวก แต่จะเกิดข้อผิดพลาดหากใช้กับจำนวนที่ไม่มี i หรือ j อย่างเหมาะสม

References

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot