คำอธิบาย
ตรวจสอบว่ามีสูตรในเซลล์หรือไม่แล้วคืนค่า TRUE หรือ FALSE
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2013
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
ISFORMULA(reference)
Arguments
-
reference (Required – reference)
เซลล์หรือช่วงของเซลล์ที่ต้องการตรวจสอบว่ามีสูตรหรือไม่ สามารถเป็น reference ของเซลล์ ชื่อ หรือสูตรก็ได้
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าเซลล์ A1 มีสูตรหรือไม่=ISFORMULA(A1)
Result:คืนค่า TRUE ถ้าเซลล์ A1 มีสูตร มิฉะนั้น คืนค่า FALSE -
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าเซลล์ B2 มีสูตรหรือไม่=ISFORMULA(B2)
Result:คืนค่า TRUE ถ้าเซลล์ B2 มีสูตร มิฉะนั้น คืนค่า FALSE -
Formula:
Description: ตรวจสอบว่าเซลล์ C3 มีสูตรหรือไม่=ISFORMULA(C3)
Result:คืนค่า TRUE ถ้าเซลล์ C3 มีสูตร มิฉะนั้น คืนค่า FALSE -
Formula:
Description: ใช้ ISFORMULA เพื่อตรวจสอบเซลล์ D4 และแสดงข้อความตามผลลัพธ์=IF(ISFORMULA(D4), "Formula Present", "No Formula")
Result:แสดง "Formula Present" ถ้า D4 มีสูตร หรือ "No Formula" ถ้าไม่มี -
Formula:
Description: เปลี่ยนผลลัพธ์ของ ISFORMULA ที่เป็น TRUE/FALSE ให้เป็นตัวเลข 1/0=ISFORMULA(E5)*1
Result:คืนค่า 1 ถ้า E5 มีสูตร หรือ 0 ถ้าไม่มี
Tips & Tricks
สามารถใช้ ISFORMULA ร่วมกับ conditional formatting เพื่อไฮไลต์เซลล์ที่มีสูตร นอกจากนี้สามารถใช้ร่วมกับ IF เพื่อแสดงข้อความตามความต้องการได้ เช่น ใช้ ISFORMULA เพื่อตรวจสอบแล้วใช้ FORMULATEXT แสดงสูตรได้ด้วย
ข้อควรระวัง (Cautions)
อย่าลืมว่า ISFORMULA แสดงค่า TRUE หรือ FALSE เท่านั้น ถ้ามีการอ้างอิงที่ไม่ถูกต้องจะคืนค่าเป็น #VALUE! error และสามารถทำงานได้เฉพาะกับเซลล์หรือช่วงที่มีสูตรเท่านั้น
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ISFORMULA นั้นง่ายต่อการใช้งานเพื่อระบุว่าสูตรมีอยู่หรือไม่ในเซลล์ แต่ไม่สามารถบอกเนื้อหาของสูตรได้ จำเป็นต้องใช้ร่วมกับ FORMULATEXT ถ้าต้องการข้อมูลที่ละเอียดขึ้น
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply