คำอธิบาย
ISTEXT ฟังก์ชันนี้สนุก ๆ ใช้เพื่อตรวจสอบว่าค่าที่กำหนดเป็นประเภทข้อความหรือไม่ ถ้าใช่ ฟังก์ชันจะส่งคืนค่า TRUE ถ้าไม่ใช่ก็ส่งคืนเป็น FALSE ลองนึกดูว่ามันเหมือนมีนักสืบตัวน้อยใน Microsoft Excel ที่ไปสเเกนว่าค่าไหนเป็นข้อความให้คุณ!
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
ISTEXT(value)
Arguments
-
value (Required – any)
ค่านี้คือค่าที่คุณต้องการทดสอบ สามารถเป็นอะไรได้หมด ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ตัวเลข ค่าว่าง ค่าการอ้างอิง หรือแม้แต่ชื่อที่อ้างอิงค่าเหล่านี้
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ทดสอบว่าค่าในเซลล์ A1 เป็นข้อความหรือไม่=ISTEXT(A1)
Result:ถ้าค่าในเซลล์ A1 เป็นข้อความ ฟังก์ชันจะส่งคืน TRUE ถ้าไม่ใช่จะคืน FALSE -
Formula:
Description: ทดสอบว่า 'Hello' เป็นข้อความหรือไม่=ISTEXT("Hello")
Result:ส่งคืน TRUE เพราะ 'Hello' เป็นข้อความ -
Formula:
Description: ทดสอบว่า 123 เป็นข้อความหรือไม่=ISTEXT(123)
Result:ส่งคืน FALSE เพราะ 123 ไม่เป็นข้อความ -
Formula:
Description: ใช้ในการตรวจสอบว่าค่าที่ใส่ในเซลล์ B2 เป็นข้อความหรือไม่ในกรณีการยืนยันข้อมูล=ISTEXT(B2)
Result:ส่งคืน TRUE ถ้าค่าคือข้อความ และสามารถใช้ในการควบคุมให้ใส่เฉพาะข้อความได้ -
Formula:
Description: ใช้ตรวจสอบว่าค่าในเซลล์ C3 เป็นข้อความหรือไม่ แล้วแสดงผลแตกต่างกันตามนั้น=IF(ISTEXT(C3), "เป็นข้อความ", "ไม่เป็นข้อความ")
Result:แสดงว่าเซลล์ C3 'เป็นข้อความ' หากเป็นข้อความ และ 'ไม่เป็นข้อความ' หากไม่ใช่
Tips & Tricks
ไฮไลท์ช่องที่มีข้อความด้วย Conditional Formatting! ใช้ ISTEXT คู่กับ IF เพื่อให้ฟีดแบ็กที่เข้าใจง่าย การนับจำนวนข้อความที่อยู่ในช่วงนั้นก็ยังได้ ด้วยการใช้ SUMPRODUCT และ ISTEXT คู่กัน!
ข้อควรระวัง (Cautions)
ต้องระวังเรื่องค่าที่เป็นตัวเลขแต่ถูกเก็บเป็นข้อความ เพราะ ISTEXT จะส่งคืน TRUE ให้ ไม่ส่งคืนสำหรับค่า #VALUE!, #NULL!, #REF!, ฯลฯ และไม่ทำงานกับเซลล์ว่าง
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากในการตรวจสอบประเภทข้อมูล ว่าข้อความหรือไม่ เพื่อปรับการวิเคราะห์ข้อมูลให้เข้ากับการใช้งาน ข้อจำกัดคือไม่รองรับเซลล์ที่ว่างหรือค่าที่เป็น error
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply