คำอธิบาย
ฟังก์ชัน MIN ใน Excel ใช้เพื่อหาค่าตัวเลขที่มีค่าน้อยที่สุดในชุดของตัวเลข เรียกว่าเหมือนกับการมอบรางวัล “เล็กที่สุดในงาน” ให้กับตัวเลขในกลุ่มนั้นแหละ!
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
MIN(number1, [number2], ...)
Arguments
-
number1 (Required – number or reference)
ตัวเลขหรือการอ้างอิงถึงเซลล์ที่ต้องการหาค่าต่ำสุด เปิดตัวเลขที่ต้องการค้นหา “แคระของกลุ่ม” ไว้ที่นี่ -
number2,… (Optional – number or reference)
ตัวเลขเพิ่มเติมหรือการอ้างอิงถึงเซลล์ในที่อื่น ๆ ที่อยากรวมในการหาค่าต่ำสุด บอกเลยว่าที่นี่มีพื้นที่ให้หลายตัวเลข เข้ามาชิงรางวัล ‘แคระสมบูรณ์แบบ’ ได้ถึง 255 ตัวเลย
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
- Formula:
Description: หาค่าที่ต่ำสุดในช่วงเซลล์ B3ถึง B9 (เฉพาะที่ Data Type เป็นเลขจริงๆ)=MIN(B3:B9)
Result: 0 (มาจาก 2, 5, 0, 3) - Formula:
Description: หาค่าน้อยที่สุดของตัวเลขในตาราง MyTable คอลัมน์ Data (เฉพาะที่ Data Type เป็นเลขจริงๆ)=MIN(MyTable[Data])
Result: 0 (มาจาก 2, 5, 0, 3) - Formula:
Description: หาค่าน้อยที่สุดของตัวเลขในตาราง MyTable คอลัมน์ Data (เฉพาะที่ Data Type เป็นเลขจริงๆ) แต่ไม่เอาเลข 0=MIN(IF(MyTable[Data]<>0, MyTable[Data]))
Result: 2 มาจาก {2;5;”8″;FALSE;”ไม่รู้”;FALSE;3}
Tips & Tricks
การใช้งานฟังก์ชัน MIN สามารถเลือกช่วงเซลล์ทันทีด้วยการลาก คล้ายกับการเลือกขนมหวานในถาด รวมถึงใช้ MIN ร่วมกับฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น IF เพื่อพัฒนาเป็นฟังก์ชันตรวจสอบตามเงื่อนไขได้ง่าย และถ้าต้องการดูแลค่าลบก็ลองใช้ ABS ในการจัดการค่าลบในชุดข้อมูลนั้นด้วย
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังถ้ามีการใส่เยอะเกิน 255 อาร์กิวเมนต์ นั่นจะทำให้ฟังก์ชันบอกเราว่า ‘โทษที เยอะไปหน่อยนะ’ รวมถึงระวังว่า MIN จะไม่สนใจข้อความและค่า TRUE, FALSE ถ้าอยู่ในช่วงอ้างอิง แต่ถ้าใส่เข้าตรง ๆ เค้าก็จะใช้ในการคำนวณนะ
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ฟังก์ชันนี้ยอดเยี่ยมในการหาค่าต่ำในข้อมูลขนาดใหญ่ แต่ต้องระวังว่าเมื่อเกิดข้อผิดพลาดในอาร์กิวเมนต์ ฟังก์ชันจะให้ข้อผิดพลาดเป็นผลลัพธ์ทันที
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply