TLDR สรุปสั้นๆ
POWER คำนวณเลขยกกำลังของจำนวนฐานและเลขกำลังที่ระบุ ใช้สำหรับงานคำนวณ เช่น ดอกเบี้ยทบต้น หรือการวิเคราะห์ข้อมูล
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน POWER ใน Excel ใช้สำหรับการคำนวณเลขยกกำลัง หรือ exponential calculations ซึ่งสามารถนำไปใช้ในหลากหลายสถานการณ์ เช่นการคำนวณทางการเงินหรือการวิเคราะห์ข้อมูล
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือรุ่นก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
POWER(number, power)
Arguments
-
number (Required – Real Number)
จำนวนฐานที่ต้องการยกกำลัง (base number) เป็นจำนวนจริงใด ๆ ก็ได้เช่น 2 หรือ 3.5 -
power (Required – Real Number)
เลขยกกำลังที่ต้องการ (exponent) ซึ่งกำหนดว่า number จะถูกยกกำลังเท่าไหร่ เช่น 2, 3 หรือ 0.5
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: ยก 5 ยกกำลัง 2 ซึ่งก็คือ 5 คูณตัวเอง 2 ครั้ง=POWER(5, 2)
Result:25 (เป็น 25 เนื่องจาก 5 * 5) -
Formula:
Description: ยก 98.6 ยกกำลัง 3.2 ซึ่งไม่ใช่จำนวนเต็ม=POWER(98.6, 3.2)
Result:2401077.222 (เนื่องจาก 98.6 ยกกำลังเป็น 3.2 จะมีค่ามากกว่า) -
Formula:
Description: ยก 4 กำลัง 5/4 ซึ่งเป็นเศษส่วน=POWER(4, 5/4)
Result:5.656854249 (หมายถึงการยกกำลัง 4 เศษ 5 และ 4) -
Formula:
Description: เป็นการหาค่ารากที่สองของ 2=POWER(2, 0.5)
Result:1.414213562 (ซึ่งเป็นรากที่สองของ 2) -
Formula:
Description: คำนวณดอกเบี้ยทบต้นสำหรับจำนวนเงินที่ลงทุน 1,000 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 5% เป็นเวลา 3 ปี=1000 * POWER(1 + 0.05, 3)
Result:1157.625 (แสดงจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นจากการทบต้น)
Tips & Tricks
ใช้เซลล์อ้างอิงแทนการป้อนค่าตัวเลขในสูตรโดยตรง เพื่อความยืดหยุ่นในการปรับค่าหรือพยายามปรับตัวฐานและเลขยกกำลังเพื่อดูผลที่ได้ สามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่นๆเช่น IF เพื่อคำนวณที่แตกต่างกันได้
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังการเกิดข้อผิดพลาด #VALUE! หากเจอค่าที่ไม่ใช่ตัวเลขในอาร์กิวเมนต์ หรือ #NUM! หากผลที่ได้เกินขีดจำกัด ควรตรวจสอบว่าเลขยกกำลังและฐานทั้งคู่เป็นตัวเลข และให้ความสำคัญกับการใช้เลขยกกำลังที่เป็นลบ
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply