คำอธิบาย
SECH ใช้คำนวณเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกของมุม การใช้งานนั้นง่ายดายและเป็นประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น วิศวกรรมและการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2013
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
SECH(number)
Arguments
-
number (Required – number)
มุมในรูปแบบเรเดียนที่คุณต้องการคำนวณเซคันต์ไฮเพอร์โบลิก
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: คำนวณค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกสำหรับมุม 0.5 เรเดียน=SECH(0.5)
Result:ค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกของมุม 0.5 เรเดียน -
Formula:
Description: คำนวณค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกสำหรับมุม 45 องศา (ต้องแปลงเป็นเรเดียนก่อน)=SECH(PI()/4)
Result:ค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกของมุม 45 องศา -
Formula:
Description: ใช้เซลล์ A1 ที่มีมุมในรูปแบบเรเดียนเพื่อตรวจสอบค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิก=SECH(A1)
Result:ค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกของมุมในเซลล์ A1 -
Formula:
Description: แปลงมุม 45 องศาเป็นเรเดียนแล้วคำนวณค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิก=SECH(45*PI()/180)
Result:ค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกของมุม 45 องศา -
Formula:
Description: ใช้ฟังก์ชั่น RADIANS เพื่อแปลง 30 องศาเป็นเรเดียนแล้วคำนวณค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิก=SECH(RADIANS(30))
Result:ค่าเซคันต์ไฮเพอร์โบลิกของมุม 30 องศา
Tips & Tricks
การใช้ฟังก์ชั่นนี้ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าค่ามุมจะต้องอยู่ในรูปแบบเรเดียน หากใช้มุมในรูปแบบองศา ต้องแปลงก่อน ใช้ฟังก์ชั่น RADIANS หรือคูณด้วย PI()/180 นอกจากนี้ การผสานกับฟังก์ชั่นอื่น เช่น COSH หรือตัวแปรเซลล์ยังทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประโยชน์ยิ่งขึ้น
ข้อควรระวัง (Cautions)
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ป้อนเป็นค่าตัวเลข ไม่เช่นนั้นจะเกิดข้อผิดพลาด #VALUE! และหากมุมที่ป้อนเกินขอบเขตจะเกิด #NUM!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดีของ SECH คือการคำนวณที่แม่นยำและง่ายต่อการใช้งาน แต่ข้อจำกัดคือ ต้องทำงานกับค่ามุมในรูปเรเดียน และการเร็นเดอร์ผลเมื่อมีข้อมูลจำนวนมากอาจช้าลง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply