คำอธิบาย
ฟังก์ชัน SHEET ใช้คืนหมายเลขแผ่นงาน (sheet number) ในเวิร์กบุ๊ก Excel ของคุณ มันเหมือนเป็นเลขบัตรประชาชนของแผ่นงานในเอกเซล ถ้าอยากรู้ว่าแผ่นงานที่กำลังดูอยู่ลำดับที่เท่าไร? ฟังก์ชันนี้จะช่วยคุณได้นะ!
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2013
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
SHEET(value)
Arguments
-
value (Optional – String or Reference)
สามารถใส่ชื่อแผ่นงาน หรือตัวอ้างอิงที่ต้องการหาหมายเลขของแผ่นงานนี้ ถ้าใส่ค่าไว้ ฟังก์ชันจะคืนหมายเลขแผ่นงานของลำดับนั้น แต่ถ้าไม่ใส่จะคืนหมายเลขของแผ่นงานที่มีฟังก์ชันนี้
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: คืนหมายเลขแผ่นงานที่มีชื่อที่กำหนดไว้ QSalesByRegion อยู่ใน Sheet2=SHEET(QSalesByRegion)
Result:หมายเลขแผ่นงานที่มีชื่อตามที่กำหนดในเวิร์กชีททั้งหมด -
Formula:
Description: คืนหมายเลขแผ่นงานที่มีตารางชื่อ Table1=SHEET(Table1)
Result:หมายเลขแผ่นงานที่ตารางนี้ตั้งอยู่ -
Formula:
Description: คืนหมายเลขแผ่นงานที่มีชื่อว่า Stuff=SHEET("Stuff")
Result:หมายเลขแผ่นงานตามที่ตั้งชื่อไว้เป็น Stuff -
Formula:
Description: คืนหมายเลขแผ่นงานที่มีอยู่ปัจจุบัน=SHEET()
Result:หมายเลขของแผ่นงานที่คุณกำลังใช้งาน -
Formula:
Description: คืนค่า error #NAME? เพราะชื่อ Hi_Temps จำกัดไว้เฉพาะแผ่นงานที่มี Hi_Temps เท่านั้น=SHEET(Hi_Temps)
Result:ค่า error #NAME? เพราะไม่สามารถหาค่าที่กำหนดได้
Tips & Tricks
SHEET ฟังก์ชันนี้นอกจากจะใช้ดูหมายเลขแผ่นงานแล้ว ยังสามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่นๆ เพื่อตรวจเช็คความถูกต้อง (error checking) ของสูตรที่อ้างอิงหลายๆ แผ่นงานได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างสารบัญสำหรับแผ่นงานทั้งหมดในเวิร์กบุ๊กได้ด้วย!
ข้อควรระวัง (Cautions)
โปรดระวัง! ถ้าค่า value ที่ใส่ไม่ถูกต้อง ฟังก์ชันจะคืนค่า error เช่น #REF หรือ #NA ฟังก์ชันนี้ไม่ซัพพอร์ตใน Object Model ซึ่งจะมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่คล้ายแต่ไม่เหมือนกันใน Object Model
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดีของฟังก์ชัน SHEET คือช่วยบริหารจัดการแผ่นงานได้ง่ายขึ้น มีประโยชน์สามารถใช้ในการตรวจเช็คสูตรที่อ้างอิงหลายๆ แผ่นงานได้ หรือการจัดการแผ่นงานโดยใช้ Table of Contents แต่ก็จำเป็นต้องระวังเรื่องค่าที่ไม่เป็น valid เพราะอาจเจอ error values ได้ เช่น #REF หรือ #NA เป็นต้น.
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply