คำอธิบาย
ฟังก์ชัน SMALL ใช้ในการค้นหาและแสดงค่าน้อยที่สุดในตำแหน่งที่กำหนดในชุดข้อมูล ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์ในการระบุค่าสุดยอดที่อยู่ในลำดับที่เฉพาะเจาะจงจากชุดข้อมูลนะครับ
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
SMALL(array, k)
Arguments
-
array (Required – range)
ช่วงข้อมูลหรือ array ของตัวเลขที่คุณต้องการค้นหาค่าน้อยที่ k -
k (Required – number)
ลำดับที่ของค่าที่ต้องการดึงออกจากชุดข้อมูลที่เรียงจากน้อยไปมาก
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาค่าที่น้อยที่สุดอันดับที่ 4 ในคอลัมน์แรกของช่วงเหล่านี้=SMALL(A2:A10,4)
Result:ค่าที่น้อยที่สุดลำดับที่ 4 จากคอลัมน์ A2:A10 จะเป็น 4 -
Formula:
Description: หาค่าที่น้อยที่สุดอันดับที่ 2 ในคอลัมน์ที่สองของช่วงเหล่านี้=SMALL(B2:B10,2)
Result:ค่าที่น้อยที่สุดลำดับที่ 2 จากคอลัมน์ B2:B10 จะเป็น 3 -
Formula:
Description: หาค่าที่น้อยที่สุดลำดับที่ 3 ในช่วงของยอดขายรายเดือน=SMALL(B1:B12, 3)
Result:ค่าที่น้อยที่สุดลำดับที่ 3 จากยอดขายรายเดือนนั้น -
Formula:
Description: ในสถานการณ์บริษัทค้าปลีก ต้องการระบุยอดขายที่ต่ำที่สุด 3 อันดับแรกของสินค้า=SMALL(A1:A100, 3)
Result:ยอดขายที่ต่ำที่สุดลำดับที่ 3 ของผลิตภัณฑ์นั้น -
Formula:
Description: กรองข้อมูลโดยใช้เงื่อนไขสินค้ามียอดขายเกิน $500 หรือไม่=IF(SMALL(A1:A100, 1) > 500, SMALL(A1:A100, 1), "Sale not high enough.")
Result:หากยอดขายที่ต่ำที่สุดเกิน $500 จะสามารถแสดงค่า หากไม่เป็นจริงจะแสดงข้อความแทน
Tips & Tricks
การรวมฟังก์ชัน SMALL กับฟังก์ชันอื่นเช่น IF, AVERAGE หรือ COUNTIF สามารถช่วยประเมินข้อมูลได้อย่างละเอียดมากขึ้น และการใช้ฟังก์ชัน SMALL กระจายข้อมูลสามารถอิงอัฟฟิชข้อมูลแปลกแยกหรือขอบบนของข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังเรื่อง array ที่ว่างเปล่าหรือไม่ได้มีค่าที่เป็นตัวเลขอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด #NUM! ได้ นอกจากนี้ไม่ควรกำหนดค่า k น้อยกว่า 1 หรือมากกว่าจำนวนข้อมูลที่มีให้
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ฟังก์ชัน SMALL ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วในการหาอันดับต่ำสุดใน set ข้อมูล อย่างไรก็ดี การประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่อาจทำให้ฟังก์ชันทำงานช้าลง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply