คำอธิบาย
ฟังก์ชัน TYPE ใช้เพื่อหาประเภทของข้อมูลในเซลล์ โดยจะรายงานผลเป็นรหัสตัวเลขซึ่งบ่งบอกถึงประเภทข้อมูล เช่น เลข ข้อความ ค่าตรรกศาสตร์ และอื่นๆ เป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์เมื่อคุณต้องการทราบประเภทของข้อมูลที่ฟังก์ชันหรือสูตรคืนค่ามา
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
TYPE(value)
Arguments
-
value (Required – any)
ค่าที่ต้องการตรวจสอบประเภท สามารถเป็นค่าทุกประเภทใน Excel เช่น เลข ข้อความ ค่าตรรกศาสตร์ เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาประเภทของค่าที่อยู่ในเซลล์ A2 หากเป็นข้อความจะได้ผลเป็น 2=TYPE(A2)
Result:ประเภทข้อมูลของเซลล์ A2 ซึ่งในตัวอย่างนี้คือ 2 แสดงว่าเป็นข้อความ -
Formula:
Description: ตรวจสอบประเภทของข้อความ "Excel" ซึ่งจะได้ผลเป็น 2 เพราะเป็นข้อความ=TYPE("Excel")
Result:รหัสประเภทเป็น 2 ซึ่งหมายถึงข้อความ -
Formula:
Description: ตรวจสอบประเภทของผลลัพธ์จากการบวกเลข 10 กับ 5 ซึ่งจะได้ผลเป็น 1 เพราะเป็นเลข=TYPE(10+5)
Result:รหัสประเภทเป็น 1 หมายถึงเป็นเลข -
Formula:
Description: ตรวจสอบประเภทของอาเรย์ {1, 2, 3} ซึ่งจะได้ผลเป็น 64 เพราะเป็นอาเรย์=TYPE({1, 2, 3})
Result:รหัสประเภทเป็น 64 หมายถึงอาเรย์ -
Formula:
Description: ตรวจสอบประเภทของค่าจริง TRUE ซึ่งจะได้ผลเป็น 4 เพราะเป็นค่าตรรกศาสตร์=TYPE(TRUE)
Result:รหัสประเภทเป็น 4 หมายถึงค่าตรรกศาสตร์
Tips & Tricks
ใช้ TYPE ร่วมกับฟังก์ชัน IF เพื่อตรวจสอบและทำเงื่อนไขพื้นฐานตามประเภทข้อมูล เช่น =IF(TYPE(A1)=1, “เป็นเลข”, “ไม่ใช่เลข”) ช่วยให้การจัดการข้อมูลเฉพาะชนิดในสเปรดชีตง่ายขึ้น
ข้อควรระวัง (Cautions)
ข้อควรระวังคือ TYPE จะตรวจสอบเฉพาะค่าที่แสดงผลสุดท้ายในเซลล์เท่านั้น ไม่ได้ตรวจสอบว่าเซลล์นั้นมีสูตรหรือไม่ ถ้าเซลล์มีสูตรที่ให้ผลเป็นข้อผิดพลาด TYPE จะคืนค่าเป็น 16 ซึ่งคือค่าที่แสดงข้อผิดพลาด
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดีคือ TYPE ใช้ได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วว่าเซลล์นั้นมีประเภทข้อมูลอะไร แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถใช้ตรวจสอบได้ว่าเซลล์มีสูตรหรือไม่ มันตรวจสอบแค่ค่าที่แสดงอีกทั้งฟังก์ชันไม่สามารถบ่งบอกข้อมูลสูตรต้นทางภายในเซลล์ได้
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️