คำอธิบาย
ถ้าคุณอยากรู้ว่าเลขกลุ่มหนึ่งๆ มีการกระจายตัวมากแค่ไหน VAR คืออัศวินคนนี้ของคุณ! ฟังก์ชันนี้เอาไว้คำนวณค่าแปรผัน (Variance) ของกลุ่มตัวอย่างได้อย่างง่ายดาย เป็นเหมือนการตรวจสอบว่าคุณภาพปราสาทของคุณแข็งแกร่งแค่ไหนท่ามกลางพายุ!
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
2003 หรือ Version ก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
VAR(number1,[number2],...)
Arguments
-
number1 (Required – Number)
ตัวเลขตัวแรกที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มตัวอย่าง จริงจังหน่อย! (จำเป็นต้องมีนะ) -
number2,… (Optional – Number)
ตัวเลขที่สองถึง 255 ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มตัวอย่าง จะมีหรือไม่มีก็ได้
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
-
Formula:
Description: หาความแปรปรวนของการทดสอบความแข็งแรงเครื่องมือในช่วง A2 ถึง A11=VAR(A2:A11)
Result:ค่าแปรปรวนที่ได้จะบอกระดับความแปรปรวนในกลุ่มข้อมูลนั้นๆ -
Formula:
Description: หาความแปรปรวนของตัวเลขกลุ่มน้อย ๆ ให้เห็นภาพ เล่นๆ นิดหน่อย=VAR(3, 7, 5, 13)
Result:เห็นภาพว่าตัวเลขกลุ่มเล็กๆ กระจายตัวอยู่แค่ไหน -
Formula:
Description: หาค่าแปรปรวนในกลุ่มที่ประกอบด้วยตัวเลขคู่แบบซำซ้อนน้อย ๆ=VAR({2,4,6,8,10})
Result:ดูว่าค่าตัวเลขคู่นั้นๆ แปรปรวนขนาดไหน -
Formula:
Description: ใช้ชื่อ range สำหรับกลุ่มข้อมูลยอดขายแล้วคำนวณค่าแปรปรวน=VAR.SalesData
Result:ค่าที่ได้จะบอกถึงความแปรปรวนของยอดขายในชื่อ range ที่ระบุ -
Formula:
Description: ใช้ฟังก์ชัน IF ร่วมกับ VAR เพื่อคำนวณเฉพาะตัวเลขที่มากกว่า 10=VAR(IF(A1:A10>10, A1:A10))
Result:ได้รับความแปรปรวนของเฉพาะค่าที่มากกว่า 10 จากช่วง A1:A10
Tips & Tricks
ใช้ชื่อ range ในช่วงข้อมูลเพื่อสะดวกในการคำนวณ และอย่าลืมเลือก VAR.S ถ้าตัวอย่างของคุณเป็นตัวอย่างสุ่มของทั้งหมด
ข้อควรระวัง (Cautions)
อย่าสับสนกับ VAR และ VARP เนื่องจากทั้งสองฟังก์ชันใช้กับกลุ่มข้อมูลที่แตกต่างกัน ถ้าคุณมีข้อมูลทั้งหมดของกลุ่มประชากร ใช้ VARP แทน!
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
ข้อดี / ข้อจำกัด
ข้อดีของ VAR คือช่วยให้รู้ถึงการกระจายตัวของข้อมูล ข้อควรระวังคือมันแค่คำนวณจากตัวอย่าง ไม่ควรนำไปใช้กับกลุ่มข้อมูลทั้งหมด ต้องใช้ VARP แทนหากใช้กับสมาชิกทั้งหมด
References
- VAR Function – Microsoft Support
- How to Use the VAR Function – The Bricks
- Calculate Variance in Excel – Career Foundry
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply