TLDR สรุปสั้นๆ
YEAR ใช้หาเลขปีจากวันที่
คำอธิบาย
ฟังก์ชัน YEAR ใช้สำหรับดึงค่าปีจากวันที่ออกมา ผลลัพธ์จะเป็นจำนวนเต็มของปีที่อยู่ในช่วงตั้งแต่ 1900-9999
มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน
Excel 2003 และก่อนหน้า
รูปแบบคำสั่ง (Syntax)
YEAR(serial_number)
Arguments
- serial_number (Required – Date)
ต้องระบุ เป็นวันที่ที่คุณต้องการหาปี สามารถใส่เป็นผลลัพธ์จากฟังก์ชัน DATE หรือฟังก์ชันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันที่ แต่ถ้าใส่เป็นข้อความให้ระวังปัญหาในการตีความ
ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)
- Formula:
Description: ดึงค่าปีจากวันที่ 23 พฤษภาคม 2008 โดยใช้ฟังก์ชัน DATE=YEAR(DATE(2008, 5, 23))
Result:2008 เป็นเลขจำนวนเต็ม - Formula:
Description: ดึงค่าปีจากวันที่ในฟอร์แมตข้อความ โดยวันที่คือ 7 พฤษภาคม 2010=YEAR("2010/5/7")
Result:2010 เป็นเลขจำนวนเต็ม - Formula: หาก A1 เป็นวันที่ 14 มีนาคม 2008
Description: ดึงค่าปีจากวันที่ในเซลล์ A1=YEAR(A1)
Result:2008 เป็นเลขจำนวนเต็ม - Formula:
Description: ดึงค่าปีจากวันที่ปัจจุบัน โดยใช้ฟังก์ชัน TODAY เพื่อดึงวันที่วันนี้=YEAR(TODAY())
Result:ผลลัพธ์จะเป็นปีปัจจุบันเสมอ เช่น 2025
Tips & Tricks
ฟังก์ชัน YEAR สามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชันอื่นใน Excel เพื่อสร้างวันที่ใหม่ ตัวอย่างเช่นใช้กับฟังก์ชัน DATE สามารถสร้างวันที่เริ่มต้นของปีได้ด้วยฟังก์ชัน =DATE(YEAR(A1), 1, 1) และยังสามารถใช้ในการจัดรูปแบบเงื่อนไขสำหรับเซลล์โดยให้สีแตกต่างกันตามปีได้ด้วย
ข้อควรระวัง (Cautions)
ระวังการป้อนวันที่ในรูปแบบข้อความ เพราะอาจไม่ถูกต้องเสมอไป (เพราะ Excel จะตีความวันที่ตาม Region ของ Control Panel แต่จะเข้าใจปีเป็น ค.ศ. เสมอ) และอย่าลืมเปลี่ยนวันที่ให้เป็นรูปแบบที่ Excel เข้าใจ หากใช้ปีที่ต่ำกว่า 1900 จะไม่สามารถคำนวณได้ด้วยฟังก์ชันข้อความนี้
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
References
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️
Leave a Reply