excel offset function

เจาะลึกฟังก์ชั่น OFFSET

ฟังก์ชั่น OFFSET เอาไว้แสดงผลลัพธ์เป็นการอ้างอิงช่อง/ช่วง (ผลเป็น Reference) โดยใช้วิธีเลื่อนตำแหน่งจากช่องที่เราอ้างอิงไปในทิศทางต่างๆ เช่น เราสามารถอ้างอิงให้เริ่มที่ช่อง G3 แล้วให้เลื่อนลงล่าง 2 แถว ไปทางซ้ายอีก 4 แถว ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็นค่าในช่อง C5 เป็นต้น

พูดง่ายๆ ว่า OFFSET มีความสามารถในการทำ Dynamic Range นั่นเองครับ

วิธีการใช้งาน

=OFFSET(reference,rows,cols,[height],[width])

วิธีการใช้งาน ภาษาชาวบ้าน

= OFFSET(จุดอ้างอิง, เลื่อนลงล่างกี่แถว, เลื่อนขวากี่แถว, [ความสูงของ Range ผลลัพธ์], [ความกว้างของ Range ผลลัพธ์])

ประเภทของ Argument ที่ใส่ลงไป

= OFFSET(Cell/Range Reference, ตัวเลข, ตัวเลข, ตัวเลข, ตัวเลข)

ประเภทของผลลัพธ์ที่ได้จาก Function

ได้เป็น Cell/Range Reference

ประเด็นที่น่าสนใจ

  • จุดอ้างอิงจะเป็น Cell หรือ Range ก็ได้
  • Rows ถ้าใส่เลขบวกจะเลื่อนลง ถ้าใส่ติดลบจะเลื่อนขึ้น
  • Columns ถ้าใส่เลขบวกจะเลื่อนไปขวา ถ้าใส่ติดลบจะเลื่อนไปทางซ้าย
  • ถ้าไม่ใส่ Height หรือ width จะถือว่าให้สูงหรือกว้างเท่าช่องอ้างอิงต้นฉบับ
  • Height และ Width ติดลบไม่ได้ เป็น 0 ไม่ได้

เช่น

OFFSET
  • =OFFSET(C3,2,3,1,1)
    • จะส่งผลกลับมาเป็นการอ้างอิงช่อง F5 เพราะเลื่อนจาก C3 ไปล่าง 2 ช่อง ขวา 3 ช่อง
  • =SUM(OFFSET(C3:E5,-1,0,3,3))
    • จะทำการ Sum ช่วง C2:E4 เพราะเลื่อนจาก C3:E5 ขึ้นไป 1 ช่อง
  • =OFFSET(C3:E5,0,-3,3,3)
    • จะ Error (#REF!) เพราะการอ้างอิงหลุดกรอบการทำงานของ Worksheet (เลื่อน C ไปซ้าย 3 ช่อง จะเลย A ออกไป)

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ OFFSET เพื่อสร้าง Dependent Dropdown List

อบรม In-House Training

Feedback การใช้งาน AI Chatbot