Tag: MAXA

  • MAXA

    TLDR สรุปสั้นๆ

    MAXA หาค่ามากที่สุดจากข้อมูลที่มีตัวเลข ค่าตรรกศาสตร์ และข้อความตัวเลข

    คำอธิบาย

    MAXA เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการหาค่ามากที่สุดจากชุดข้อมูล โดยจะรวมถึงค่าตัวเลข ค่าตรรกศาสตร์ (TRUE/FALSE) และข้อความที่เป็นตัวแทนของตัวเลขด้วย

    มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

    Excel 2003 หรือก่อนหน้า

    รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

    MAXA(value1,[value2],...)

    Arguments

    • value1 (Required – Any)
      ค่าหรือการอ้างอิงแรกที่ต้องการหาค่ามากที่สุด อาจจะเป็นตัวเลข ค่าตรรกศาสตร์ หรือข้อความที่เป็นตัวแทนของตัวเลข
    • value2,… (Optional – Any)
      ค่าหรือการอ้างอิงเพิ่มเติมที่ต้องการหาค่ามากที่สุด รองรับสูงสุด 255 ค่า

    ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

    • Formula:
      =MAXA(A2:A6)
      Description: หาค่ามากที่สุดในช่วง A2 ถึง A6 โดยค่า TRUE จะถือเป็น 1 และค่ามากที่สุดจะเป็น 1
      Result:1 (เพราะ TRUE ประเมินค่าเป็น 1)
    • Formula:
      =MAXA(1, 2, TRUE, "3")
      Description: ฟังก์ชันนี้จะหาค่ามากที่สุดในชุด 1, 2, TRUE และข้อความ '3' ที่ตัวเลข 1 เป็นตัวแทนของ TRUE
      Result:3 (ข้อความ "3" ถูกประเมินเป็นตัวเลข)
    • Formula:
      =MAXA(10, 5, FALSE, 0)
      Description: ฟังก์ชันนี้จะหาค่ามากที่สุดจากชุด 10, 5, FALSE ที่ถือเป็น 0, และ 0
      Result:10
    • Formula:
      =MAXA(IF(D2:D21=B2:B21, B2:B21, 0))
      Description: ใช้คู่กับฟังก์ชัน IF เพื่อหาค่ามากที่สุดในช่วงที่มีเงื่อนไขตรงกัน ค่า FALSE ถูกประเมินเป็น 0
      Result:ค่าสูงสุดตามเงื่อนไขในช่วงข้อมูลที่ตรงกัน สามารถคืนค่าที่เป็นหมายเลขหรือค่าตรรกศาสตร์ 1
    • Formula:
      =MAXA(A1:A100, FALSE)
      Description: ใช้ค้นหาค่ามากที่สุดในช่วง A1:A100 และรวมค่าผลลัพธ์ของ FALSE ที่เป็น 0 ด้วย
      Result:ได้ค่าตัวเลขมากที่สุดจากช่วง A1:A100

    Tips & Tricks

    – MAXA สามารถใช้ร่วมกับฟังก์ชัน IF เพื่อหาค่ามากที่สุดในช่วงที่มีเงื่อนไขเจาะจง – การใช้ MAXA กับ conditional formatting จะช่วยทำให้การหาค่ามากสุดเป็นไปได้ง่ายและเห็นผลอย่างชัดเจนทางภาพ – ฟังก์ชันนี้เหมาะสำหรับการจัดการข้อมูลที่มีค่าตรรกศาสตร์และข้อความตัวแทนตัวเลข

    ข้อควรระวัง (Cautions)

    – ถ้าช่วงข้อมูลมีข้อความที่ไม่สามารถประเมินผลเป็นตัวเลข อาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาด – ค่าตรรกศาสตร์ TRUE และ FALSE จะถูกประเมินเป็น 1 และ 0 ตามลำดับ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ตรงตามคาดหวัง – ข้อควรระวังคือ อาจต้องทำความสะอาดข้อมูลก่อนการใช้งานเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดจากค่าที่ไม่ใช่ตัวเลข

    ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

    References

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️