Tag: PERMUTATIONA

  • PERMUTATIONA

    TLDR สรุปสั้นๆ

    PERMUTATIONA คำนวณจำนวนวิธีการจัดเรียงวัตถุโดยสามารถซ้ำได้

    คำอธิบาย

    ฟังก์ชัน PERMUTATIONA ใน Excel ใช้ในการหาจำนวนวิธีการจัดเรียงของวัตถุ โดยที่สามารถมีการทำซ้ำได้ ซึ่งหมายถึงเราสามารถเลือกวัตถุใด ๆ จากกลุ่มรวมเอามาจัดเรียงใหม่ได้แม้ว่าจะเคยเลือกไปแล้วก็ตาม

    มีครั้งแรกในเวอร์ชันไหน

    2013

    รูปแบบคำสั่ง (Syntax)

    PERMUTATIONA(number, number_chosen)

    Arguments

    • number (Required – Integer)
      จำนวนเต็มที่ใช้บอกจำนวนวัตถุทั้งหมดที่มี
    • number_chosen (Required – Integer)
      จำนวนเต็มที่ใช้บอกจำนวนวัตถุที่เลือกเพื่อจัดเรียง

    ตัวอย่างการใช้งาน (Examples)

    • Formula:
      =PERMUTATIONA(3, 2)
      Description: มีวัตถุทั้งหมด 3 ชิ้น [4, 5, 6] และต้องการจัดเรียงวัตถุ 2 ชิ้น ซึ่งสามารถมีวิธีการจัดเรียงซ้ำได้
      Result:9 (เช่น 4,4 4,5 4,6 5,4 5,5 5,6 6,4 6,5 6,6)
    • Formula:
      =PERMUTATIONA(2, 2)
      Description: มีวัตถุทั้งหมด 2 ชิ้น [3, 5] และต้องการจัดเรียงวัตถุทั้ง 2 ชิ้น ซึ่งสามารถมีวิธีการจัดเรียงซ้ำได้
      Result:4 (เช่น 3,3 3,5 5,3 5,5)
    • Formula:
      =PERMUTATIONA(4, 3)
      Description: มีวัตถุทั้งหมด 4 ชิ้น [1, 2, 3, 4] และต้องการจัดเรียงวัตถุ 3 ชิ้น ซึ่งสามารถมีวิธีการจัดเรียงซ้ำได้
      Result:64 (มีหลายแบบมากเนื่องจากการจัดเรียงแบบซ้ำได้)
    • Formula:
      =PERMUTATIONA(5, 1)
      Description: มีวัตถุทั้งหมด 5 ชิ้น [a, b, c, d, e] และต้องการเลือกวัตถุเพียง 1 ชิ้น
      Result:5 (a, b, c, d, e เรียงในลำดับเดียวกัน)
    • Formula:
      =PERMUTATIONA(4, 0)
      Description: ทดลองใส่ค่า number_chosen เป็น 0 ซึ่งหมายถึงไม่เลือกวัตถุเลยว่าจะมีค่าการจัดเรียงหรือไม่
      Result:1 (จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 1 เนื่องจากการจัดเรียงวัตถุ 0 ชิ้นมีได้แค่แบบเดียว)

    Tips & Tricks

    การใช้ PERMUTATIONA เหมาะมากเมื่อคุณต้องการทราบจำนวนกระบวนการจัดเรียงที่สามารถใช้ซ้ำได้ในหลายๆ แบบ เช่นคิดถึงการจัดเรียงรหัสผ่านโดยใช้ตัวอักษรหรือตัวเลขที่สามารถซ้ำได้จะช่วยสะดวกขึ้นทั้งการคำนวณและการทดลอง

    ข้อควรระวัง (Cautions)

    จำไว้ว่าฟังก์ชันนี้จะตัดค่าที่เป็นเศษทิ้งแล้วใช้แต่ค่าเต็ม จึงควรตรวจสอบค่าให้รอบคอบว่าคุณใส่ตัวเลขเต็มหรือไม่ ถ้าค่าที่ใส่เป็นศูนย์หรือค่าที่ไม่ถูกต้อง ฟังก์ชันจะคืนค่า #NUM! หรือ #VALUE! ขึ้นอยู่กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ค่า number_chosen ไม่ควรจะมากกว่าค่า number เพราะจะทำให้เกิดข้อผิดพลาด

    ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง

    References

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ❤️